The Relationship between Sexual Health Literacy and Sexual Behaviors of Teenage in a District of Suphanburi Province

Main Article Content

Wanchai Somjaipeng

Abstract

This descriptive research aims to determine the relationship between sexual health literacy and teenage sexual behaviors, and factors predicting teenage sexual behaviors. The sample group consists of 332 high school students in Suphanburi Province selected by stratified sample technique. Data were collected by using a health literacy questionnaire and a desirable sexual behavior questionnaire. The confidence values of Cronbach’s alpha coefficient are .85 and .92 respectively. Data have been analyzed by using descriptive statistics, Pearson's Correlation Coefficient, and Stepwise Multiple Regression. 


The results show that most of the sample is female teenagers, of which 60.20% have desirable sexual behaviors with a mean score at a high level (M = 63.75, SD = 13.50). There is a high level of positive correlation with statistically significant desirable sexual behaviors (r = .56, p < .01). After being examined, the highest correlative skill is the decision skill while self-management (r = .49, p < .01) is the lowest one.  Two predictive factors are communication and decision skills, which can co-predict 39.50% 63.20 (R2 = .632, p <.01) of desirable sexual behaviors.         


It can be indicated from the results of the study that the development of sexual health knowledge amongst teenagers should emphasize communication to increase the adolescents’ appropriate sexual behaviors along with encouraging them to decide properly in any sexual situation.   

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

How to Cite
Somjaipeng, W. . (2022). The Relationship between Sexual Health Literacy and Sexual Behaviors of Teenage in a District of Suphanburi Province. Journal of Prachomklao College of Nursing, Phetchaburi Province, 5(2), 101–116. retrieved from https://he01.tci-thaijo.org/index.php/pck/article/view/256674
Section
Research Articles

References

กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. (2557). ประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรสำหรับสตรีไทยวัยรุ่น อายุ 15-21 ปี. http://hed.go.th/linkHed/362

เขตสุขภาพที่ 5 จังหวัดราชบุรี. (2562). สถานการณ์การดำเนินงานวัยรุ่น เขตสุขภาพที่ 5. https://apps.hpc.go.th/dl/web/upFile/2020/02-5005-20200214160603/dc2d7a31db164930d135a771e4f2915f.pdf

ชูศรี วงศ์รัตนะ. (2560). เทคนิคการใช้สถิติเพื่อการวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 13 ฉบับปรับปรุงเพิ่มเติม). โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

เชษฐภูมิ วรรณไพศาล. (2562). เครื่องมือการวิจัยทางสังคมศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 3). ศูนย์บริหารงานวิจัยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

นวลพรรณ อิศโร, ชนัญชิดา ดุษฎี ทูลศิริ, และ รุ่งรัตน์ ศรีสุริยเวศน์ (2559). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ในจังหวัดจันทบุรี. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพา, 24(2), 72-84.

นันทิวา สิงห์ทอง, ณัฐธวัลย์ เพ็งแจ่ม, วันฉัตร โสฬส, ศุภรดา โมขุนทด, ณัฐมน เนตรภักดี, เขมิกา วิเศษเพ็ง, นิภาพร ปลื้มมะลัง, เกสรวี ศรีศุภนัน, ต่วนนูรีซัน อิแต, และ นาเดียร์ อาแซ. (2563). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ของวัยรุ่นหญิงโรงเรียนแห่งหนึ่งจากในเมือง จังหวัดนครราชสีมา. ใน วิทยาลัยนครราชสีมา, การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาลัยนครราชสีมา ครั้งที่ 7 ประจำปี 2563 เรื่อง นวัตกรรมเพื่อสุขภาพและสังคมในยุคดิจิตอล (หน้า 1106-1115). วิทยาลัยนครราชสีมา. http://journal.nmc.ac.th/th/admin/Journal/ 2563Vol12No1_1.pdf

ปริยานุช ตั้งนรกุล, ศิริยุพา สนั่นเรืองศักดิ์, และ นฤมล ธีระรังสิกุล. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพทางเพศกับพฤติกรรมทางเพศของนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. วารสารแพทย์นาวี, 46(3), 607-620.

พระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น. (2559, 31 มีนาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 133 ตอนที่ 30 ก. หน้า 1-9.

ภมร ดรุณ, และ ประกันชัย ไกรรัตน์. (2562). ปัจจัยความรอบรู้ด้านสุขภาพที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนจังหวัดบึงกาฬ. วารสารวิชาการ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, 15(3), 71-82.

ยุวดี งอมสงัด, รุ่งรัตน์ ศรีสุริยเวศน์ และ พรนภา หอมสินธุ์ .(2562). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ในนักเรียนวัยรุ่นหญิงจังหวัดศรีสะเกษ. วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา, 14(2), 37-51.

วรรณศิริ ประจันโน, รุ่งรัตน์ ศรีสุริยเวศน์, และ พรนภา หอมสินธุ์. (2562). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมทางเพศของนักเรียนประถมศึกษาตอนปลายตามแนวคิดการให้ข้อมูลข่าวสารแรงจูงใจและทักษะพฤติกรรม. วารสารพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 29(2), 39-51.

วัชราพร เชยสุวรรณ. (2560). ความรอบรู้ด้านสุขภาพ: แนวคิดและการประยุกต์สู่การปฏิบัติทางการพยาบาล. วารสารแพทย์นาวี, 44(3), 183-197.

ศิริวรรณ ทุมเชื้อ. (2558). พฤติกรรมทางเพศและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความตั้งใจในการป้องกันการตั้งครรภ์ของวัยรุ่นในจังหวัดสระบุรี. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 25(1), 97-109.

สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2561). สถานการณ์ด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ในวัยรุ่นและเยาวชน ปีพ.ศ. 2560. สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข.

สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2563). รายงานประจำปี 2563 สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์. สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข.

อังศินันท์ อินทรกำแหง, และ ธัญชนก ขุมทอง. (2560). การพัฒนาเครื่องมือวัดความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรสำหรับสตรีไทยวัยรุ่น. วารสารพยาบาลสาธารณสุข, 31(3), 19-38.

อุทัยวรรณ สกุลวลีธร, ศิริยุพา สนั่นเรืองศักดิ์, และ นฤมล ธีระรังสิกุล. (2561). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมป้องกันความเสี่ยงทางเพศในวัยรุ่นหญิงมัธยมศึกษาตอนต้น. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอิสเทิร์นเอเชีย ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 12(2), 253-263.

Kilfoyle, K. A., Vitko, M., O'Conor, R., & Bailey, S. C. (2016). Health literacy and women's reproductive health: A systematic review. Journal of Women's Health, 25(12), 1237-1255.

Nutbeam, D. (2008). The evolving concept of health literacy. Social Science & Medicine, 67(12), 2072-2078.

Senaviratna, N. A. M. R., & Cooray, T. M. J. A. (2019). Diagnosing multicollinearity of logistic regression model. Asian Journal of Probability and Statistics, 5(2), Article AJPAS.51693. https://journalajpas.com/index.php/AJPAS/article/view/30132

Yamane, T. (1967). Statistics, an introductory analysis (2nd ed.). Harper and Row.