การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานเพื่อส่งเสริมทัศนคติ ในการดูแลผู้สูงอายุของนักศึกษาพยาบาล

บทคัดย่อ

การวิจัยและพัฒนานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานเพื่อส่งเสริมทัศนคติในการดูแลผู้สูงอายุของนักศึกษาพยาบาล มีวิธีดำเนินการวิจัย 3 ระยะ คือ 1) การศึกษาสถานการณ์การเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทัศนคติในการดูแลผู้สูงอายุ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสนทนากลุ่มนักศึกษาพยาบาล ชั้นปีที่ 2 จำนวน 10 คน ซึ่งได้จากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา 2) การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานเพื่อส่งเสริมทัศนคติในการดูแลผู้สูงอายุ 3) การศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานเพื่อส่งเสริมทัศนคติในการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลังการทดลอง กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาพยาบาล ชั้นปีที่ 2 จำนวน 30 คน คัดเลือกโดยการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานเพื่อส่งเสริมทัศนคติในการดูแลผู้สูงอายุ และแบบสอบถามทัศนคติที่มีต่อผู้สูงอายุ วิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิติพรรณนาและการทดสอบทีแบบไม่เป็นอิสระต่อกัน

ผลการวิจัยพบว่า 1) สถานการณ์การจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับทัศนคติในการดูแลผู้สูงอายุ พบว่า นักศึกษาพยาบาลให้ความสำคัญต่อทัศนคติในการดูแลผู้สูงอายุน้อย และต้องการให้มีการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมทัศนคติในการดูแลผู้สูงอายุ 2) รูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานเพื่อส่งเสริมทัศนคติในการดูแลผู้สูงอายุ ประกอบด้วย การบรรยาย สถานการณ์จำลองเป็นผู้สูงอายุ การฝึกปฏิบัติการพยาบาลผู้สูงอายุ และการสะท้อนคิด 3) นักศึกษาพยาบาลมีทัศนคติในการดูแลผู้สูงอายุสูงกว่าก่อนการเรียน (t = -17.09, p < .01)

การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า รูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานที่พัฒนาขึ้นสามารถช่วยส่งเสริมทัศนคติในการดูแลผู้สูงอายุของนักศึกษาพยาบาล จึงควรนำรูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานไปใช้ในวิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาพยาบาลเกิดทัศนคติที่ดีในการดูแลผู้สูงอายุและสามารถให้การพยาบาลครอบคลุมองค์รวม