ผลของโปรแกรมการสนับสนุนและให้ความรู้ต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองและไขมันในเลือดของพนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น
คำสำคัญ:
พฤติกรรมการดูแลตนเอง,ไขมันในเลือดบทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยกึ่งทดลอง(quasi experimental research)และหลังการทดลองแบบ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการสนับสนุนและให้ความรู้ต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองและไขมันในเลือดของพนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ดำเนินการวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2567 โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลในกลุ่มตัวอย่าง สัปดาห์ที่ 1 และ สัปดาห์ที่ 12 ภายหลังได้รับโปรแกรมการสนับสนุนและให้ความรู้ต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองและไขมันในเลือด นำผลที่ได้ในแต่ละครั้งมาเปรียบเทียบกัน โดยระยะเวลาที่ใช้ทดลองในโปรแกรมคือ 12 สัปดาห์ประชากรในการศึกษาครั้งนี้ คือ พนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่นที่มาตรวจสุขภาพประจำปีและมีระดับคอเลสเตอรอลรวมในเลือดสูงมากกว่าหรือเท่ากับ 200 มก./ดล.สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง จำนวน 23 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามพฤติกรรมการดูแลตนเองด้านการบริโภคอาหารและการออกกำลังกาย/การมีกิจกรรมทางกาย สร้างขึ้นจากการประยุกต์พฤติกรรมการดูแลตนเองของโอเร็ม การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยคะแนนพฤติกรรมการดูแลตนเอง ค่าดัชนีมวลกายและค่าเฉลี่ยระดับไขมันในเลือดของกลุ่มตัวอย่าง ก่อนและหลังการทดลอง โดยใช้สถิติ Paired t-test ผลการวิจัยพบว่า ภายหลังการทดลอง กลุ่มตัวอย่างมีค่าเฉลี่ยของคะแนนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร เท่ากับ 63.39 คะแนน (SD.= 8.47) ซึ่งพบว่าแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ พฤติกรรมการออกกำลังกาย/การมีกิจกรรมทางกาย ค่าคะแนนพฤติกรรมการออกกำลังกาย/กิจกรรมทางกายเท่ากับ 37.04 (SD.= 5.31) พบว่าแตกต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ค่าเฉลี่ยระดับคอเลสเตอรอลลดลงเท่ากับ 201.08 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 23.78 ซึ่งพบว่าแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ค่าเฉลี่ยดัชนีมวลกายเท่ากับ 26.08 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 3.91 ซึ่งพบว่าแตกต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญ ดังนั้น บุคลากรสาธารณสุข พยาบาลในโรงพยาบาลหรือพยาบาลที่รับผิดชอบการดูแลสุขภาพพนักงานในสถานประกอบการต่าง ๆ โดยเฉพาะพนักงานที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง สามารถนำโปรแกรมการสนับสนุนและให้ความรู้เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพไปประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาภาวะไขมันในเลือดสูงได้ แต่อาจต้องมีการอบรมการใช้โปแกรมก่อนนำไปใช้จริง เพื่อลดข้อจำกัดของการใช้โปรแกรมและเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล โรงพยาบาลขอนแก่น

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ กลุ่มภารกิจด้านพยาบาล โรงพยาบาลขอนแก่น
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลขอนแก่น หรือบุคลากรในโรงพยาบาลแต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว