การมีส่วนร่วมของชุมชนในการสร้างเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจของผู้ป่วยโรคเรื้อรังหลายโรคร่วมกันที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ในเขตพื้นที่อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น

ผู้แต่ง

  • อัฐญา ธงพรรษา คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • นิศาชล บุบผา คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • สุรดา โพธิ์ตาทอง โรงพยาบาลอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น

คำสำคัญ:

โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง, สร้างเสริมสุขภาพ

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงคุณภาพครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของชุมชนในการสร้างเสริมความรอบรู้ ด้านสุขภาพในการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจของผู้ป่วยโรคเรื้อรังหลายโรคร่วมกัน ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ในเขตพื้นที่อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 34 คน จาก 4 องค์กรหลักในชุมชน ได้แก่ ภาคประชาชน จำนวน 12 คน ผู้นำชุมชน จำนวน 6 คน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 7 คน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จำนวน 9 คน รวมทั้งหมด เลือกกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง รวบรวมข้อมูลด้วยการใช้ แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูล โดยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา เปรียบเทียบความเหมือน ความต่างของข้อมูล แบ่งประเภทของปรากฏการณ์ จำแนก และจัดหมวดหมู่
ผลการวิจัย พบว่า ภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพในชุมชนมีบทบาทหน้าที่ให้การช่วยเหลือ ดูแลสุขภาพผู้ป่วย โรคเรื้อรัง ให้ความรู้ ตรวจคัดกรองโรค เยี่ยมบ้าน สนับสนุนงบประมาณ และอุปกรณ์ต่าง ๆ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับผู้ป่วยว่า ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ อยู่บ้านเพียงลำพัง ลูกหลานต้องทำงานไกลบ้าน ทำให้ขาดคนดูแล มีข้อจำกัดเรื่อง การประกอบอาชีพ การหารายได้ และความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพด้วยการใช้เทคโนโลยี ผู้ร่วมวิจัยส่วนใหญ่รับรู้โรคหลอดเลือดหัวใจว่าเป็นเรื่องไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง ปัญหาอุปสรรค ได้แก่ ความยากลำบากในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ เนื่องจากข้อจำกัดด้านการเดินทางอย่างไรก็ตามผู้ป่วย ส่วนมากให้ความร่วมมือในการดูแลสุขภาพ เชื่อฟังบุคลากรสุขภาพ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และผู้นำชุมชน ส่วนการพัฒนางานในการดูแลผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจในพื้นที่ มีข้อเสนอแนะว่า ระดับบุคคลผู้ป่วยควรได้รับ การพัฒนาทักษะในการดูแลตนเอง ส่วนระดับชุมชนควรค้นหาแกนนำด้านสุขภาพในชุมชน เพื่อเป็นต้นแบบ ในการดูแลสุขภาพและป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ และมีข้อเสนอแนะว่าบุคลากรด้านสุขภาพ หน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่าย ควรร่วมกันเสริมสร้างระบบการดูแลสุขภาพ สำหรับผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังด้วยการให้ความรู้ด้านสุขภาพเพิ่มเติมในกลุ่มที่ยังขาดความรู้ กลุ่มที่ข้อจำกัด เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีข้อจำกัดด้านการใช้เทคโนโลยี นอกจากนี้ควรปรับกลยุทธ์การสื่อสารด้านสุขภาพให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับคำแนะนำด้านโภชนาการและ การไปพบแพทย์ตามนัด เพื่อให้มีความรู้ในการป้องกันโรคที่ดีและต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มทักษะแก่บุคลากรให้เพียงพอ เพิ่มการบริการเชิงรุก และมีการคืนข้อมูล สะท้อนข้อมูลให้แก่พื้นที่

ประวัติผู้แต่ง

นิศาชล บุบผา, คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ผศ ดร นิศาชล บุบผา 

เอกสารอ้างอิง

World Health Organization. Noncommunicable diseases [Internet]. Geneva: WHO;2024 [updated 2025; cited 2024 Feb 26]. Available from: https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/noncommunicable-diseases

Department of Disease Control. Situation of chronic non-communicable diseases It is the number one health problem in the world and Thailand, especially the 4 main NCDs diseases [Internet]. Nonthaburi: Department of Disease Control, [n.d.] [updated 2025; cited 2022 Dec 20]. Available from: https://www.ddc.moph.go.th/dncd/ newsphp?news=39911 (in Thai)

World Health Organization. Health literacy [Internet]. Geneva: WHO;2024 [updated 2025; cited 2024 Feb 26]. Available from: https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/noncommunicable-diseases

Department of Disease Control. Information on death/illness statistics from non-communicable diseases. [Internet]. Geneva: WHO;2024 [updated 2025; cited 2022 Dec 16]. Available from: https://www.ddc.moph.go.th/dncd/ news.php?news=39911 (in Thai)

Ubolratana Hospital. Program HosXp. Khon Kaen: Ubolratana Hospital;2015 [updated 2015; cited 2022 Dec 16]. Available from: https://im-hospital.blogspot.com/2012/ 05/4.html (in Thai)

Nuntaboot K, Boonsawasdgulchai P, Bubpa P, Jaitieng A. Community research using rapid ethnographic community assessment process. Bangkok: Thai Health Promotion Foundation, Healthy Community Strengthening Section;2018. (in Thai)

Chirawatkul S. Qualitative research in nursing profession. Bangkok: Witayaphat;2005. (in Thai)

Chirawatkul S. Qualitative study in nursing. 2nd ed. Bangkok: Witayaphat;2012. (in Thai)

Lincoln YS, Guba, EG. Naturalistic inquiry. London: SAGE;1985.

Pumprawai A, Siengsanau J. Using community participation to improve health promoting behaviors among older adults. Journal of the Southern Region College Network of Nursing and Public Health Journal 2017;4(3):160-75. (in Thai)

Jirarattanawanna N, Wattanaamorn S, Ratsamepong S. Community participation in health promotion. Mahachula Academic Journal 2019;6(special):365-81. (in Thai)

Bunmasri P, Nantana R, Thanasirikarn T. Empowerment for village health volunteers on health behavior change for high-risk group with hypertension. Journal of Nursing and Health Care 2021;39(3):91-100. (in Thai)

Ruangsuksud P, Sangchart B, Sangruangake M, Juntapim S. A concept analysis: treatment burden for chronic illness. Journal of Nursing and health care 2021;39(4):6-15. (in Thai)

Waleewong A. Good health and well-being [Internet]. Bangkok: Centre for SDG Research and Support: SDG Move;2021 [updated 2021; cited 2024 Jan 14]. Available from: https: //www.sdgmove.com/2021 /01/25/sdg-updates-good-health-and-well-being/ (in Thai)

Prachanai R, Bouphan P. The participation in health promotion of health personnel in community hospitals Roi Et Province, Thailand. KKU Research Journal (Graduate Studies) 2015;20(1):91-104. (in Thai)

Aditya VS, Devynai W, Radhika S, Rajashekhar M, Ashwini K, Abhishek VR, et al. Community engagement in health promotion campaigns: a qualitative photo content analysis from vitalizing communities against NCD risk factor (V-CaN) field trial in rural central India. Journal of Education and Health Promotion 2024;(13):1-8.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-09-29

รูปแบบการอ้างอิง

1.
ธงพรรษา อ, บุบผา น, โพธิ์ตาทอง ส. การมีส่วนร่วมของชุมชนในการสร้างเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจของผู้ป่วยโรคเรื้อรังหลายโรคร่วมกันที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ในเขตพื้นที่อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น. J Nurs Sci Health [อินเทอร์เน็ต]. 29 กันยายน 2025 [อ้างถึง 29 ธันวาคม 2025];48(3):125-38. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/nah/article/view/277554

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย