องค์ประกอบสมรรถนะของพยาบาลพี่เลี้ยงสำหรับพยาบาลที่จบใหม่ ในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศไทย
คำสำคัญ:
องค์ประกอบสมรรถนะ , พยาบาลพี่เลี้ยง , โรงพยาบาลกรุงเทพบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงบรรยายในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาองค์ของประกอบสมรรถนะพยาบาลพี่เลี้ยง ในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยทำการศึกษากับพยาบาลวิชาชีพทุกคน ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นพยาบาลพี่เลี้ยงสำหรับพยาบาลที่จบใหม่ ในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 200 คน เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีจำนวน 52 ข้อ แบบสอบถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่านตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาของแบบสอบถาม ได้ค่าดัชนีความตรงตามเนื้อหา เท่ากับ 0.95 หาค่าความเชื่อมั่นโดยคำนวณสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค ได้เท่ากับ 0.98 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ โดยวิเคราะห์องค์ประกอบสำคัญ และใช้การหมุนแกนแบบมุมฉากออโธโกนอลด้วยวิธีแวริแมกซ์
ผลการวิจัยพบว่า การวิเคราะห์องค์ประกอบสมรรถนะพยาบาลพี่เลี้ยงประกอบด้วย 11 ด้าน ได้แก่ 1) การคิดวิเคราะห์และตัดสินใจ 2) การสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจ 3) การสอนงานและถ่ายทอดความรู้ 4) การสื่อสาร 5) ความเป็นผู้นำ 6) การประเมินผล 7) การจัดการงาน เวลาและความรู้ 8) การสร้างโอกาสเพื่อการเรียนรู้ 9) การเป็นแบบอย่างที่ดี 10) การป้องกันและจัดการความเสี่ยง และ 11) การปฏิบัติการพยาบาล มีค่าน้ำหนักองค์ประกอบเท่ากับ .557-.848 โดยร่วมกันอธิบายความผันแปรของตัวแปรทั้งหมดได้ร้อยละ 71.032 ซึ่งอยู่ในระดับที่เหมาะสม ทั้ง 11 องค์ประกอบสามารถนำไปใช้เป็นตัวชี้วัดสำหรับการพัฒนาเครื่องมือประเมินสมรรถนะพยาบาลพี่เลี้ยงที่มีมาตรฐานความตรงเชิงโครงสร้างภายใต้บริบทของโรงพยาบาลเอกชนที่คล้ายคลึงกันได้
References
Smith J H Sweet L. Becoming a nurse preceptor, the challenges and rewards of novice registered nurses in high acuity hospital environments. Nurse Education in Practice 2019; 36:101–7. https://doi.org/10.1016/j.nepr. 2019.03.001
Siripen Veerajit S, Siritarungsri B, Namjumtra R. Development of a mentor model for nurses at Suratthani hospital. Journal of the Police Nurses 2016;8(2):138-50. (in Thai)
Pongboriboon U. Being the preceptor: The challenge of nurse’s self-efficacy. Journal of The Royal Thai Army Nurses 2018;19 suppl 1:22-30. (in Thai)
Boonrod W. A guideline for development the mentoring effectiveness in nursing for the Royal Thai Army Hospitals. The Journal of the Thai Army Nurses 2009;10(2):32-46. (in Thai)
Pasasawat O, Srisatidnarakul B. A study of preceptor competency, tertiary hospital. Journal of the Royal Thai Army Nurses 2011;12 suppl:21-7. (in Thai)
Mingpun R, Srisa-ard B, Jumpamool A. Strengthening preceptors’ competency in Thai clinical nursing. Educ Res Rev 2015;10(20):2653-60.
Webb C, Shakespeare P. Judgements about mentoring relationships. Nurse Education Today 2008;28(5):563-71.
Comrey AL Lee HB. A first course in factor analysis. 2nd ed. New York: Routledge; 2016.
Wells CS Wollack JA. An instructor’s guide to understanding test reliability: testing & evaluation services. USA: University of Wisconsin. Madison; 2003.
Byrne BM. Structural equation modeling with AMOS: Basic concepts, applications and programming. 2nd ed. New York: Routledge; 2010.
Polit DF, Beck CT. Nursing research: Generating and Assessing Evidence for Nursing Practice. 9th Edition, Lippincott, Williams & Wilkins, Philadelphia; 2012
Tabachnick BG, Fidell LS. Using multivariate statistics 6th ed. Harlow: Pearson Education; 2014.
Plodpluang U. Competencies of preceptor. Princess of Naradhiwas University Journal 2016; 8(3): 168-74. (in Thai)
Juntachum W, et. al. The development of coaching model of nursing practices
among nurse preceptors, Bangkok Hospital Khon Kaen. Journal of Nursing and Health Care 2020;38(1):157-66. (in Thai)
Thamsrisawat J, Hinjiranan S, Kaikaew S. The competencies of nurse preceptors for new nurses at a Private Hospital in Chonburi Province. Christian University Journal 2016; 22(3): 366-76. (in Thai)
Nertprasertkul V, Jansoontraporn P. The development of competency scale for nurse mentors in Vajira Hospital. Journal of The Royal Thai Army Nurses 2021;22(3):313-21. (in Thai)
Palumbo MV, Rambur BA, Boyer SA. Education and employment characteristics of nurse preceptors. Journal of Continuing Education in Nursing 2012;43(10):472–80. Available from: https://doi.org/10.3928/00220124-20120716-29
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่ผลงานที่ตีพิมพ์ห้ามผู้ใดนำบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพไปเผยแพร่ในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้ การนำบทความไปเผยแพร่ออนไลน์ การถ่ายเอกสารบทความเพื่อกิจกรรมที่ไม่ใช่การเรียนการสอน การส่งบทความไปตีพิมพ์เผยแพร่ที่อื่น ยกเว้นเสียแต่ได้รับอนุญาตจากวารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ