การปรับตัวให้นอนพักได้บ้างของผู้ป่วยเด็กวัยเรียนโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ระหว่างที่ได้รับเคมีบำบัด

บทคัดย่อ

ผู้ป่วยเด็กวัยเรียนโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวต้องได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ทำให้เกิดความไม่สุขสบายหลายอย่าง รวมไปถึงการมีปัญหาการนอนซึ่งส่งผลต่อสุขภาพและการตอบสนองต่อการรักษา ปัจจุบันยังไม่พบการศึกษาที่ชี้เฉพาะเกี่ยวกับปัญหาการนอนและวิธีการจัดการกับปัญหาการนอนของผู้ป่วยเด็กกลุ่มนี้ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรยายปัญหาการนอนและการจัดการกับปัญหาการนอนของผู้ป่วยเด็กวัยเรียนโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวระหว่างที่ได้รับเคมีบำบัด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยเรื่องการจัดการกับปัญหาการนอนของผู้ป่วยเด็กวัยเรียนโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวระหว่างได้รับเคมีบำบัดโดยใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลคือผู้ป่วยเด็กวัยเรียนโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว อายุ 8–12 ปี จำนวน 10 ราย ที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัดตั้งแต่ระยะที่ 2 เป็นต้นไป ณ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึก และนำข้อมูลมาวิเคราะห์แบบแก่นสาระ      

ผลการวิจัย พบว่า “การปรับตัวให้นอนพักได้บ้าง” เป็นประเด็นหลักที่สะท้อนให้เห็นว่าผู้ป่วยเด็กวัยเรียนโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวยังมีปัญหาการนอน โดยผู้ป่วยเด็กต้องประสบกับการนอนที่ต้องหลับ ๆ ตื่นๆ การนอนที่ไม่ต่อเนื่อง ตื่นแล้วไม่สามารถนอนต่อได้ ซึ่งผู้ป่วยเด็กมีวิธีการจัดการกับปัญหาการนอนที่เกิดขึ้นด้วยตนเองโดยการงีบหลับเป็นช่วงสั้น ๆ ช่วงระหว่างการดำเนินชีวิตประจำวัน หรือหาวิธีการคลายความร้อนในร่างกายซึ่งเป็นผลที่เกิดจากเคมีบำบัดเพื่อช่วยให้ตนเองหลับได้ เช่น การเปิดเครื่องปรับอากาศ เปิดพัดลม หรืออาบน้ำ แต่อย่างไรก็ตาม วิธีการจัดการเหล่านี้ยังไม่สามารถชดเชยต่อการนอนหลับให้เพียงพอได้ แสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยเด็กวัยเรียนโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวยังคงมีปัญหาการนอนและไม่สามารถจัดการกับปัญหาการนอนได้ด้วยตนเอง พยาบาลเด็กสามารถนำผลที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้ไปใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาหรือสร้างแนวทางปฏิบัติการพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเด็กวัยเรียนโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่ได้รับเคมีบำบัดที่มีปัญหาการนอน รวมทั้งการวิจัยต่อไปในอนาคตได้