ความรู้ ทัศนคติ และการรับรู้พฤติกรรมการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวนาน 6 เดือนของสามีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: การศึกษาในโรงพยาบาลตติยภูมิ

บทคัดย่อ

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีประโยชน์ต่อมารดาและทารก ระดับความรู้ ทัศนคติ และการรับรู้พฤติกรรมของสามีเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะการเลี้ยงลูกด้วยนมเพียงอย่างเดียวนาน 6 เดือน การศึกษาเชิงพรรณนาแบบตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับและความสัมพันธ์ของ ความรู้ ทัศนคติ และการรับรู้พฤติกรรมการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวนาน 6 เดือนของสามีที่มาเฝ้าภรรยาที่มาคลอดบุตรในโรงพยาบาลตติยภูมิของรัฐในจังหวัดขอนแก่น เครื่องมือการวิจัย ประกอบด้วย 4 แบบสอบถาม ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล, แบบสอบถามความรู้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สำหรับสามี, แบบสอบถามทัศนคติการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สำหรับสามี, แบบสอบถามการรับรู้พฤติกรรมการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สำหรับสามี กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ สามีที่มาเฝ้าภรรยาที่มาคลอดบุตร ณ โรงพยาบาลขอนแก่น และ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ระหว่างตุลาคม 2563 - มีนาคม 2564  วิเคราะห์ข้อมูล โดยหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดมีจำนวน 185 คน กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีอายุอยู่ระหว่างช่วง 19-29 ปี (46.49 %) หนึ่งในสามของกลุ่มตัวอย่างมีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. (31.35%) มีรายได้อยู่ที่ช่วง 10,001-20,000 บาทต่อเดือน (37.84%) กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งเคยมีบุตร (51.59 %) และมีประสบการณ์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ (53.51%) ส่วนใหญ่ระดับความรู้ของสามีอยู่ในระดับปานกลาง (mean=19.32, SD=4.82) ส่วนระดับทัศนคติของสามี ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง (mean=68.58, SD=10.24) จำนวนของสามีมีระดับการรับรู้พฤติกรรมอยู่ในระดับปานกลางและระดับสูงเท่ากัน (mean=108.81, SD=20.39) นอกจากนี้ พบว่า ระดับความรู้ มีความสัมพันธ์ทางบวกกับระดับทัศนคติ และการรับรู้พฤติกรรม (r=0.478, r=0.342) และระดับทัศนคติมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการรับรู้พฤติกรรม (r=0.553) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลงานวิจัยนี้สามารถนำไปเป็นข้อมูลพื้นฐานเพื่อส่งเสริมสามีให้สนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวนาน 6 เดือน รวมทั้งสร้างโปรแกรมให้ความรู้และส่งเสริมการปฏิบัติที่ถูกต้องสำหรับสามี