การพัฒนาแบบประเมินความเสี่ยงต่อการเกิด โรคหลอดเลือดสมองโดยประยุกต์ใช้หลักการบริหารความเสี่ยง ตามแนวคิดของ COSO : ERM
คำสำคัญ:
โรคหลอดเลือดสมอง, การบริหารความเสี่ยง, แนวคิดโคโซ่บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ 1) ศึกษาปัจจัยความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง 2) ออกแบบและพัฒนาเครื่องมือการประเมินความเสี่ยง 3) วิเคราะห์ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
วิธีการวิจัย การวิจัยแบบผสมผสาน โดยอาศัยการสำรวจปัจจัยและนำไปสู่การออกแบบและพัฒนาเครื่องมือการประเมินความเสี่ยง ศึกษากับผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมองจนต้องรับไว้รักษาตัว จำนวน 30 ราย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยหลักทางคณิตศาสตร์และสถิติเชิงพรรณนา
ผลการศึกษา พบว่า 1) ปัจจัยความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองมีจำนวน 21 ปัจจัย 2) ปัจจัยที่มีความสามารถในการทำนายความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองมีจำนวน 14 ปัจจัย 3) แบบประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ประกอบด้วย 4 ส่วน หนึ่ง การประเมินรายการคุณลักษณะส่วนบุคคล สอง การประเมินรายการพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน สาม การประเมินรายการปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง และสี่ แผนผังการประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
สรุปผล 1) ปัจจัยที่ค้นพบเป็นตัวบ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง 2) สามารถประยุกต์ใช้หลักการบริหารความเสี่ยงตามแนวคิดของ COSO : ERM ในการออกแบบและพัฒนาเครื่องมือการประเมินความเสี่ยงได้บนพื้นฐานความมีเหตุและมีผล 3) แบบประเมินความเสี่ยงสามารถใช้ทำนายแนวโน้มของพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
เอกสารอ้างอิง
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. Thailand Medical Services Profile 2015-2018 โรคหลอดเลือดสมอง. [อินเตอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2564] เข้าถึงได้จาก: file:///C:/Users/acer/Downloads/5dfcb8d04702c760392358%20(1).pdf (วันที่25 ม.ค. 59).
ณฐกร นิลเนตร ชนัญญา จิระพรกุล และเนาวรัตน์ มณีนิล. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ. วารสารสุขศึกษา 2561;64.
Jittima Saengsuwan, Pathitta Suangpho & Somsak Tiamkao. Knowledge of Stroke Risk Factors and Warning Signs in Patients with Recurrent Stroke or Recurrent Transient Ischaemic Attack in Thailand. Journal of Clinical Medicine. 2020;9:1-2.
Rodgers A, Perkovic V.. A Randomized Trial of Intensive versus Standard Blood-pressure Control. N Engl J Med. 2016;23:2295.
Yiin Gabriel SC, Howard Dominic PJ, Paul Nicola LM, Li L, Luengo-Fernandez, R, Bull Linda M, et al. Age-Specific Incidence, Outcome, Cost and Projected Future Burden of Atrial Fibrillation-Related Embolic Vascular Events. Circulation. 2014;130:1236-44.
Kazim Husain, et al. Alcohol-induced hypertension: Mechanism and prevention. Worid Journal of cardiology. 2014;6:245-252.
Writing C, Lioyd-Jones DM, Morris PB, Ballantyne CM, Birtcher KK, Daly DD, Jr., et al. ACC Expert Consensus Decision Pathway on the Role of Non-Statin Therapies for LDL-Cholesterol Lowering in the management of Atherosclerotic Cardiovascular Disease Risk: A Report of the American Collehe of Cardiology Task Force on Clinical Expert Consensus Documents. J Am Coll Cardiol. 2016;68:92-125.
Nystrom T, Holzmann MJ, Sartipy U. Longterm risk of stroke in patients with type 1 and type 2 diabetes following coronary artery bypass grafting. J Am Heart Assoc. 2015; 4:e002411-e002411.
Teh WL, Abdin E, Vaingankar JA, Seow E, Sagayadevan V, Shafie S, et al. Prevalence of stroke, risk factors, disability and care needs in older adults in Singapore: results from the WiSE study. BMJ Open. 2018;8(3):e020285.
Boehme AK, Esenwa C, Elkind MS. Stroke Risk Factors, Genetics, and Prevention. Circ Res. 2017;120(3):472-95.
กานต์ธิชา กำแพงแก้ว วิไลพรรณ สมบุญตนนท์ และวีนัส ลีฬหกุล. ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ปัจจัยเสี่ยง การรับรู้อาการเตือนและพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยง. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข 2558;42-45.
Zeng, Y., He, G.-P., Yi, G.-H., Huang, Y.-J., Zhang, Q.-H., & He, L.-L. Knowledge of stroke warning signs and risk factors among patients with previous stroke or TIA in China. Journal of Clinical Nursing. 2012;21:2886-2895.
Mellor, R. M., Bailey, S., Sheppard, J., Carr, P., Quinn, T., Boyal, A., & McManus, R. J. Decisions and delays within stroke patients’ route to the hospital: a qualitative study. Annals of Emergency Medicine. 2015;65:278-2 7.
National Health Security Office. (2007). Risk of stroke. Bangkok: Ministry of Public Health.
Robins, G., Power, D., & Burgen, S. (1999). A wellness way of life. New York: McGraw-Hill.
จุฑารัตน์ ดวงจันทร์ตุ้ย และพีรยา มั่นเขตวิทย์. การสำรวจระดับความเสี่ยงต่ออาการเกิดโรคหลอดเลือดสมองของพนักงานขับรถโดยสารรับจ้างของสหกรณ์นครล้านนาเดินรถจำกัดจังหวัดเชียงใหม่. วารสารเทคนิคการแพทย์เชียงใหม่ 2556;46:43.
The Committee of Sponsoring Organizations of the Treadway Commission (COSO) (2004). Enterprise Risk Management - Integrated Framework. Retrieved on January 1, 2021. Available from: https ://www.coso.org/Documents/COSO-ERM-Executive-Summary.pdf
พงศ์เทพ วิวรรธนะเดช. การประเมินความเสี่ยงสุขภาพและการสร้างแบบจำลอง, 2561.
Teasell, R., & Viana, R. (2014). Stroke rehabilitation clinician handbook. Canada: Western University.
Hubbard IJ, Wass S, Pepper E. Stroke in older survivors of ischemic stroke: standard care or something different? Geriatrics 2017;2:18.
สันติชัย ศรีปณิธาน. การศึกษาโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตันเฉียบพลันทีได้รับการรักษาด้วยยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำในโรงพยาบาลแพร. วารสารโรงพยาบาลแพร่. 2560;4.
Berkhemer OA, Fransen PS, Beumer D, van den Berg LA, Lingsma HF, Yoo AJ, etal. A Randomized Trial of Intraarterial Treatment for Acute Ischemic Stroke. N Engl J Med 2015;372:11.
Polit D. F., & Beck C.T. Essentials of Nursing Research: Appraising Evidence for Nursing Practice.(8th Ed). Philadelphia: Lippincott Williams, & Wilkins; 2014.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารสมาคมโรคหลอดเลือดสมองไทย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้อความภายในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมโรคหลอดเลือดสมองไทยเล่มนี้ ตลอดจนความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความเป็นของผู้นิพนธ์ ไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการแต่อย่างใด การนำเนื้อหา ข้อความหรือข้อคิดเห็นของบทความไปเผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารเล่มนี้ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร

