การพัฒนารูปแบบการนิเทศทางคลินิกต่อสมรรถนะพยาบาล และผลลัพธ์ทางคลินิกในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลหาดใหญ่
คำสำคัญ:
การนิเทศทางคลินิก, สมรรถนะการพยาบาล, ผลลัพธ์ทางคลินิก, ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์การวิจัย เพื่อพัฒนาและประเมินผลลัพธ์รูปแบบการนิเทศทางคลินิกต่อสมรรถนะพยาบาลและผลลัพธ์ทางคลินิกในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
วิธีวิจัย ใช้วิธีการวิจัยและพัฒนา 3 ขั้นตอน ดำเนินการตั้งแต่ เดือนตุลาคม 2561 ถึง มิถุนายน 2563 ณ หอผู้ป่วยอายุรกรรม โรงพยาบาลหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ขั้นตอนที่ 1 วิเคราะห์ความต้องการพัฒนา และข้อจำกัดการนิเทศผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองของพยาบาลผู้นิเทศ ขั้นตอนที่ 2 พัฒนาและใช้โปรแกรมการนิเทศทางคลินิก เพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะการนิเทศและการสอนงาน แก่พยาบาลผู้นิเทศ ขั้นตอนที่ 3 ประเมินผล การประเมินผลลัพธ์ เปรียบเทียบก่อนและหลังพัฒนา คือ 1) ผลลัพธ์ต่อพยาบาล ใช้แบบประเมินสมรรถนะการนิเทศของพยาบาลผู้นิเทศ จำนวน 30 คน และสมรรถนะการพยาบาลของพยาบาลผู้รับการนิเทศ จำนวน
60 คน 2) ผลลัพธ์ต่อผู้รับบริการ ใช้แบบประเมินความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำ วันของบาร์เทลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองก่อนจำหน่าย จำนวน 1,110 คน และแบบวัดสมรรถนะของญาติผู้ดูแล จำนวน 1,110 คน วิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติทดลองค่าทีแบบรายคู่ ใช้โปรแกรมวิเคราะห์ SPSS
ผลการวิจัย หลังพัฒนา พยาบาลผู้นิเทศมีคะแนนสมรรถนะการนิเทศเพิ่มขึ้นเป็น 300 จากเดิม 215 คะแนน (p<0.001) และพยาบาลผู้รับการนิเทศ มีคะแนนสมรรถนะการพยาบาล เพิ่มขึ้นเป็น 240 จาก เดิม 179 คะแนน (p<0.001) ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมีความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันเพิ่มขึ้น มีคะแนนบาร์เทลเพิ่มขึ้นเป็น 78.75 จากเดิม 74.38 (p<0.001) และญาติผู้ดูแล มีสมรรถนะการดูแลผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 87.83 คะแนน จากเดิม 42.18 (p<0.001)
บทสรุป ผลการวิจัยแสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลของรูปแบบการนิเทศทางคลินิก ในการพัฒนาคุณภาพการพยาบาล และผลลัพธ์ทางคลินิก
เอกสารอ้างอิง
มาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ ฉบับที่ 4.นนทบุรี: หนังสือดีวัน; 2562.
2.Proctor, B. Training for the supervision alliance attitude, skills and intention, in J.R.
Cutcliffe,T. Butterworth and B. Proctor (ends), Fundamental Themes in Clinical
Supervision, London: Routledge 2001; 25–46.
3.เพ็ญจันทร์ แสนประสาน. มาตรฐานการบริหาร องค์กรการพยาบาลและการผดุงครรภ์.
[อินเตอร์เน็ต] [สืบค้นเมื่อ 20 มิ.ย. 2561]. แหล่งข้อมูล
http://www.thaiheart.org/images/column
4.Alexander, G. Behavioral coaching-the GROW model In Passmore, Jonathan.
Excellence in coaching: The industry guide. (2nded.). Philadelphia: Kogan;2010.
5.ผ่องศรี สุวรรณพายัพ, พรทิพย์ สุขอดิศัย และกรรณิกา อำพน.การพัฒนารูปแบบการนิเทศ
ทางการพยาบาล กลุ่มการพยาบาลโรงพยาบาลพระปกเกล้า.วารสารการพยาบาลและ การศึกษา 2556; 6(1):12-26.
6.งานเวชระเบียนและสถิติ ข้อมูลหน่วยเวชระเบียนและสถิติโรงพยาบาลหาดใหญ่ จำนวน
ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา; 2562.
7.บุญใจ ศรีสถิตย์นารกูร. ระเบียบวิธีวิจัยทางการพยาบาลศาสตร์(พิมพ์ครั้งที่ 5) กรุงเทพฯยู แอนไอ อินเตอร์มีเดีย; 2553.
8.นิตยา ศรีญาณลักษณ์. การบริหารการพยาบาล. นนทบุรี: ธนาเพลสจำกัด; 2552.
9.นัยนา ทองทวน. การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการใช้กระบวนการพยาบาลในการปฏิบัติการ
พยาบาล งานผู้ป่วย ในกลุ่มการพยาบาล โรงพยาบาล 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ์ จังหวัดอุบลราชธานี. [วิทยานิพนธ์]. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2557.
10.กนกรัตน์ แสงอำไพ. ผลของการนิเทศทางคลินิกต่อความ รู้ ความสามารถในการปฏิบัติการ
พยาบาลเพื่อจัดการความ ปวดในผู้ป่วยหลังผ่าตัด และความพึงพอใจในการนิเทศ ของพยาบาล.วารสารกองการพยาบาล 2552; 36 (1): 1-14.
11.เผอิญ ณ พัทลุง.บทบาทการนิเทศของหัวหน้าหอผู้ป่วยที่เป็นจริงและที่คาดหวังด้านการใช้
กระบวนการพยาบาล ด้านการบันทึกทางการพยาบาลและด้านการพัฒนาความรู้ของบุคลากร ในโรงพยาบาลสงขลา. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุข ภาคใต้ 2559; 3(1): 192-206.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ข้อความภายในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมโรคหลอดเลือดสมองไทยเล่มนี้ ตลอดจนความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความเป็นของผู้นิพนธ์ ไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการแต่อย่างใด การนำเนื้อหา ข้อความหรือข้อคิดเห็นของบทความไปเผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารเล่มนี้ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร

