ผลของการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกในการดูแลทารกที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีลดอุณหภูมิกายต่อการควบคุมอุณหภูมิกายของทารก

บทคัดย่อ

การรักษาทารกที่มีภาวะสมองทำงานผิดปกติจากการขาดเลือดและออกซิเจนปริกำเนิดด้วยการลดอุณหภูมิกายทารกเป็น 33-34 องศาเซลเซียสนาน 72 ชั่วโมง สามารถลดอัตราการตายและความพิการของทารกได้ การวิจัยครั้งนี้เป็น intervention research แบบ historical control study เพื่อศึกษาผลของการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกในการดูแลทารกที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีลดอุณหภูมิกายต่อการควบคุมอุณหภูมิกายของทารก ในหอผู้ป่วยหนักทารกแรกเกิด จำนวน 30 ราย เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง แบ่งเป็นกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกในการดูแลทารกที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีลดอุณหภูมิกาย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา สถิติฟิชเชอร์เอ็กแซค

ผลการศึกษาพบว่า ในระยะ induction phase ทารกที่มีอุณหภูมิร่างกาย 33-34 องศาเซลเซียส ภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากได้รับการรักษาด้วยการลดอุณหภูมิกายในกลุ่มที่มีการใช้แนวปฏิบัติมีแนวโน้มมากกว่ากลุ่มที่ได้รับการพยาบาลปกติ แต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ระยะ maintenance phase ทารกที่มีอุณหภูมิกาย 33-34 องศาเซลเซียสนาน 72 ชั่วโมง และ ระยะ rewarming phase ทารกที่มีอุณหภูมิกาย 36.5 องศาเซลเซียส ภายใน 6-8 ชั่วโมงหลังช่วง maintenance phase ในกลุ่มที่มีการใช้แนวปฏิบัติมากกว่ากลุ่มที่ได้รับการพยาบาลปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05)

ผลการวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกในการดูแลทารกที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีลดอุณหภูมิกายสามารถควบคุมอุณหภูมิกายทารกให้เป็นไปตามเป้าหมายในระยะ maintenance phase และ rewarming phase ได้ดีกว่าการพยาบาลปกติ สามารถนำแนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกนี้ไปใช้ในการดูแลทารกที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีลดอุณหภูมิกาย เพื่อเพิ่มมาตรฐานการพยาบาล ผู้ป่วยได้รับการพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ