อัตราส่วนการตายต่ออุบัติการณ์โรคมะเร็งท่อน้ำดี จังหวัดขอนแก่น
คำสำคัญ:
มะเร็งท่อน้ำดี, อัตราอุบัติการณ์, อัตราตายบทคัดย่อ
โรคมะเร็งท่อน้ำดีเป็นโรคที่พบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ซึ่งเคยเป็นพื้นที่อุบัติการณ์สูงที่สุดในโลก การศึกษาเกี่ยวกับอุบัติการณ์และอัตราตายโรคมะเร็งท่อน้ำดียังมีการศึกษาน้อยโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งที่โรคมะเร็งท่อน้ำดียังเป็นปัญหาที่สำคัญและมีลักษณะเฉพาะที่มีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับในประชากรภูมิภาคนี้ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอัตราส่วนการตายต่ออุบัติการณ์โรคมะเร็งท่อน้ำดี จังหวัดขอนแก่น เป็นการศึกษาเชิงวิเคราะห์แบบย้อนหลังโดยการศึกษาจากเหตุไปหาผล ข้อมูลจากทะเบียนมะเร็งชุมชนจังหวัดขอนแก่น ในผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ระหว่างปี พ.ศ.2560 - 2563 คำนวณค่าอุบัติการณ์ที่ปรับอายุมาตรฐาน อัตราการเสียชีวิตที่ปรับอายุมาตรฐาน และอัตราส่วนการตายต่ออุบัติการณ์ นำเสนอพร้อมช่วงเชื่อมั่น 95% ผลการศึกษาพบว่า ภาพรวมอุบัติการณ์ปรับอายุมาตรฐาน จังหวัดขอนแก่น เพศชาย 16.2 ต่อประชากรแสนคนต่อปี (95% CI 15.1 to 17.2) เพศหญิง 6.9 ต่อประชากรแสนคนต่อปี (95% CI 6.3 to 7.6) อำเภอที่พบ ASR สูงที่สุด เพศชาย ได้แก่ อำเภอพระยืน (ASR = 29.2 ต่อประชากรแสนคนต่อปี) เพศหญิง ได้แก่ อำเภอเขาสวนกวาง (ASR = 12.3 ต่อประชากรแสนคนต่อปี) ASMR เพศชาย 9.3 ต่อประชากรแสนคนต่อปี (95% CI 8.5 to 10.1) เพศหญิง ASMR 4.2 ต่อประชากรแสนคนต่อปี (95% CI 3.7 to 4.7) อำเภอที่พบ ASMR สูงที่สุด เพศชาย ได้แก่ อำเภอเวียงเก่า (ASMR = 28.8 ต่อประชากรแสนคนต่อปี เพศหญิง ได้แก่ อำเภอเปือยน้อย (ASMR = 16.0 ต่อประชากรแสนคนต่อปี) อำเภอที่มีค่าสัดส่วน M/I ratio มากกว่า 1 ได้แก่ เปือยน้อย ชนบท และเวียงเก่า (M/I ratio 1.33 , 1.11 และ 1.05 ตามลำดับ) โดยสัดส่วน M/I ratio กรณีมากกว่า 1 แสดงถึงความไม่สมบูรณ์ของทะเบียนมะเร็ง ความสามารถในการวินิจฉัยโรคมะเร็งลดลง หรือโรคมะเร็งที่เมื่อได้รับการวินิจฉัยมีอัตรารอดชีพน้อย โดยสรุปอุบัติการณ์และอัตราตายมะเร็งท่อน้ำดีในจังหวัดขอนแก่นพบต่ำ โดยส่วนใหญ่พบในกลุ่มผู้สูงอายุและแตกต่างกันตามอำเภอ อำเภอที่พบค่า M/I ratio มากกว่า 1 ควรมีการทบทวนความสมบูรณ์ของทะเบียนมะเร็ง การตรวจวินิจฉัย และตลอดจนแนวทางการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งท่อน้ำดี
เอกสารอ้างอิง
คณะกรรมการจัดทำแผนการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งแห่งชาติ, กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. แผนการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งแห่งชาติ พ.ศ. 2561-2565. กรุงเทพฯ: อาร์ตการ์ด; 2561.
World Health Organization. Cancer [อินเทอร์เน็ต]. 2018 [เข้าถึงเมื่อ 2021 ม.ค. 1]. เข้าถึงได้จาก: https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/cancer
Rojanamatin J, Ukranun P, Supaattagorn I, Chiawiriyabunya M, Wongsena A, Chaiwerawattana P, et al. Cancer in Thailand Volume X, 2016-2018. Bangkok: National Cancer Institute; 2021.
ณรงค์ ขันตีแก้ว. โรคมะเร็งท่อน้ำดี. ศรีนครินทร์เวชสาร 2548; 20(3): 143-9.
Shin HR, Oh JK, Masuyer E, Curado MP, Bouvard V, Fang Y, et al. Comparison of incidence of intrahepatic and extrahepatic cholangiocarcinoma-focus on East and South-Eastern Asia. Asian Pac J Cancer Prev 2010; 11(5): 1159-66.
Sripa B, Bethony JM, Sithithaworn P, Kaewkes S, Mairiang E, Loukas A, et al. Opisthorchiasis and Opisthorchis-associated cholangiocarcinoma in Thailand and Laos. Acta Trop 2011; 120(suppl 1): s158-68.
กระทรวงสาธารณสุข. ระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ (HDC) รายงานมาตรฐานสถานะสุขภาพสาเหตุการป่วย/ตาย [อินเทอร์เน็ต]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 16 ต.ค. 2564]. เข้าถึงได้จาก: https://hdc.moph.go.th/center/public/standard-report-detail/8881445af732eb166fa2470ba5046956
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. ยุทธศาสตร์ทศวรรษกำจัดปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ปี 2559–2568. กรุงเทพฯ: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์กรสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์; 2559.
Khuhaprema T, Attasara P, Sriplung P, Wiangnon S, Sanrajrang R. Cancer in Thailand Volume VII, 2007-2009. Bangkok: National Cancer Institute; 2013.
Kamsa-ard S, Wiangnon S, Suwanrungruang K, Promthet S, Khuntikea N, Kamsa-ard S, et al. Trends in liver cancer incidence between 1985 and 2009, Khon Kaen, Thailand: cholangiocarcinoma. Asian Pac J Cancer Prev 2011; 12(9): 2009-13.
Kaewpitoon SJ, Rujirakul R, Loyd RA, Matrakool L, Sangkudloa A, Kaewthani S, et al. Spatial distribution of the population at risk of cholangiocarcinoma in Chum Phaung District, Nakhon. J Trop Med 2016; 50(4): 564-72.
World Health Organization. Data visualization tools for exploring the global cancer burden in 2018 [Internet]. 2018 [Cited 2021 March 30]. Available form: https://gco.iarc.fr/today
นพรัตน์ ส่งเสริม,สุพรรณี พรหมเทศ. บทวิเคราะห์มะเร็งท่อน้ำดี: ความรู้ บทบาท และความท้าทายของนักสาธารณสุขในการป้องกันและควบคุมในประเทศไทย. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2554; 4(3): 97-103.
ดลสุข พงษ์นิกร, กาญจนา ดาวประเสริฐ, บุรินทร์ วงค์แก้ว, ศิรินยา แสงคำ, มนฐิตินันท์ ประดิษฐค่าย, รวิสรา มีมาก. แนวโน้มอุบัติการณ์และอัตราตายโรคมะเร็งในภาคเหนือของประเทศไทย พ.ศ. 2536-2560: ผลของการพัฒนาเครือข่ายทะเบียนมะเร็งระดับประชากร [รายงานการวิจัย]. ลำปาง: โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง; 2563.
Parkin DM, Srivatanakul P, Khlat M, Chenvidhya D, Chotiwan P, Insiripong S, et al. Liver cancer in Thailand. I. a case-control study of cholangiocarcinoma. Int J Cancer 1991; 48: 323-8.
Choi E, Lee S, Cam Nhung B, Suh M, Park B, Jun JK, et al. Cancer mortality-to-incidence ratio as an indicator of cancer management outcomes in organization for economic cooperation and development countries. J Cancer 2017;12(4):1-10.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่7 จังหวัดขอนแก่น

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ความรับผิดชอบ
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น ถือเป็นผลงานทางวิชาการหรือวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของวารสารสำนักงาน ป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น หรือ ของกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง
ลิขสิทธ์บทความ
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์จะถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักงานป้องกันตวบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น
