ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในเขตสุขภาพที่ 7 ปี 2565
คำสำคัญ:
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019, COVID-19 เสียชีวิตบทคัดย่อ
การศึกษาแบบ Case - control study มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่สัมพันธ์กับการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วยที่มีผลตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส SARS CoV-2 และเข้ารับการรักษาในแผนกผู้ป่วยในของโรงพยาบาล 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม–31 ธันวาคม 2565 เลือกตัวอย่างตามเกณฑ์คัดเลือกโดยสุ่มกลุ่มที่เสียชีวิต (cases) 390 คน กลุ่มที่ไม่เสียชีวิต (controls) 390 คน รวม 780 คน เก็บรวบรวมข้อมูลจากการทบทวนเวชระเบียนของโรงพยาบาล แบบรายงานและแบบสอบสวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การได้รับวัคซีนจากฐานข้อมูล MOPH-IC วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงด้วยสถิติ multivariable logistic regression analysis นำเสนอค่า adjusted OR และช่วงเชื่อมั่น 95% ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเพศชายจำนวน 233 คน (ร้อยละ 59.7) อายุมากกว่า 60 ปีจำนวน 268 คน (ร้อยละ 68.7) อายุเฉลี่ย 66.8 ปี (ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 15.2 ปี) ผลตรวจเอกซเรย์ปอดผิดปกติจำนวน 345 คน (ร้อยละ 88.5) มีโรคประจำตัวจำนวน 339 คน (ร้อยละ 86.9) และมีภาวะอ้วน จำนวน 81 คน (ร้อยละ 20.8) กลุ่มที่ไม่เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงจำนวน 217 คน (ร้อยละ 55.6) อายุมากกว่า 60 ปี จำนวน 154 คน (ร้อยละ 39.5) อายุเฉลี่ย 53.4 ปี (ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 17.7 ปี) ผลตรวจเอกซเรย์ปอดผิดปกติจำนวน 113 คน (ร้อยละ 29.0) มีโรคประจำตัวจำนวน 212 คน (ร้อยละ 54.4) มีภาวะอ้วนจำนวน 122 คน (ร้อยละ 31.1) จากการวิเคราะห์หลายตัวแปรพบปัจจัยที่สัมพันธ์ต่อการเสียชีวิต ได้แก่ ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับวัคซีน (adj.OR = 9.3, 95%CI = 4.9 – 17.3) มีภาวะปอดอักเสบ (adj.OR = 13.2, 95%CI = 8.3 – 20.8) อายุมากกว่า 60 ปี (adj.OR = 4.2, 95%CI = 2.1– 8.6) มีโรคประจำตัว (adj.OR = 2.1, 95%CI = 1.3 – 3.5) โรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงกับการเสียชีวิต ได้แก่ โรคตับแข็ง (adj.OR = 3.9, 95%CI = 1.3 – 11.3) วัณโรค (adj.OR = 3.3, 95%CI = 1.7 – 6.6) หอบหืด (adj.OR = 2.7, 95% CI = 1.1– 6.6) โรคหัวใจและหลอดเลือด (adj.OR = 2.7, 95%CI = 1.6 – 4.8) ไตวายเรื้อรัง (adj.OR = 2.4, 95%CI = 1.6 – 3.7) โรคหลอดเลือดสมอง (adj.OR = 2.4, 95%CI = 1.4 – 4.2) และ ความดันโลหิตสูง (adj.OR = 2.3, 95%CI = 1.6 – 3.2)
สรุปผลการศึกษา ผู้สูงอายุที่มีอาการปอดอักเสบ และมีโรคประจำตัวได้แก่ โรคตับแข็ง วัณโรค โรคหลอดเลือดสมอง หัวใจและหลอดเลือด ไตวายเรื้อรัง หอบหืด และความดันโลหิตสูง ร่วมกับการไม่ได้รับวัคซีน COVID-19 เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ข้อเสนอแนะ ผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ได้รับการคัดกรองวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว ทั้งการตรวจเอกซเรย์ปอด การรักษาโรค COVID-19 และโรคร่วมอย่างเหมาะสม รวมทั้งการรับวัคซีนให้ครอบคลุมตามเกณฑ์
References
สุรัยยา หมานมานะ, โสภณ เอี่ยมศิริถาวร, สุมนมาลย์ อุทยมกุล. โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19). วารสารสถาบันบำราศนราดูร 2563; 14(2): 124-33.
Parasher A. COVID-19: Current understanding of its pathophysiology, clinical presentation and treatment. Postgrad Med J 2021; 97(1147): 312-20.
กรมควบคุมโรค. สถานการณ์ COVID-19 ภายในประเทศ รายสัปดาห์ [อินเทอร์เน็ต] . 2565 [เข้าถึงเมื่อ 1 สิงหาคม 2565]. เข้าถึงได้จาก https://ddc.moph.go.th/covid19-dashboard/
กรมควบคุมโรค. คู่มือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน กรณีการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย [อินเทอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 1 สิงหาคม 2565]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/g_other.php
มณฑิรา ชาญณรงค์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับอาการหลงเหลือภายหลังจําหน่ายออกจากโรงพยาบาล ของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019. วารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล 2565; 28(1): c257651.
ธัญพร วุฑฒยากร, พรชัย สิทธิศรัณย์กุล. ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดโรค COVID-19. วารสารสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย 2564; 11(2): 447-64.
Gesesew HA, Koye DN, Fetene DM, Woldegiorgis M, Kinfu Y, Geleto AB, et al. Risk factors for COVID-19 infection, disease severity and related deaths in Africa: a systematic review. BMJ Open 2021; 11(2): e044618.
Iaccarino G, Grassi G, Borghi C, Ferri C, Salvetti M, Volpe M. Age and multimorbidity predict death among COVID-19 patients. Hypertension 2020; 76(2): 366-72.
Du P, Li D, Wang A, Shen S, Ma Z, Li X. A systematic review and meta-analysis of risk factors associated with severity and death in COVID-19 patients. Can J Infect Dis Med Microbiol 2021; 2021: 6660930.
Pálinkás A, Sándor J. Effectiveness of COVID-19 vaccination in preventing all-cause mortality among adults during the third wave of the epidemic in Hungary: Nationwide retrospective cohort study. Vaccines (Basel) 2022; 10(7): 1009.
Fahim NK, Negida A, Fahim AK. Sample size calculation guide - part 3: How to calculate the sample size for an independent case-control study. Adv J Emerg Med 2019; 3(2): e20.
Charan J, Biswas T. How to calculate sample size for different study designs in medical research? Indian J Psychol Med 2013; 35(2): 121-6.
ปิยนุช ปฏิภาณวัตร. ปัจจัยที่มีผลต่อการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โรงพยาบาลกาฬสินธุ์. วารสารสุขภาพและสิ่งแวดล้อมศึกษา 2565; 7(1): 64-71.
Srisompong J. Predictive factors associated with mortality outcomes of severe COVID-19 pneumonia in elderly patients, Suratthani hospital, Thailand. Thailand Region 11 Medical J 2022; 37(2): 16-33.
Dessie ZG, Zewotir T. Mortality-related risk factors of COVID-19: a systematic review and meta-analysis of 42 studies and 423,117 patients. BMC Infect Dis 2021; 21(1): 855.
ศิริลักษณ์ ไทยเจริญ, สุกาญดา หมื่นราษฎร์, สุรชาติ โกยดุลย์, ละมุน แสงสุวรรณ์. ปัจจัยเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดสุราษฎร์ธานี. รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์ 2565; 53(7): 93-101.
กัญชรส วังมุข, ชนัญญา จิระพรกุล, นวรัตน์ มณีนิน, จารุวรรณ สารพล. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเสียชีวิตในผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประเทศไทย: การศึกษาย้อนหลังแบบจับคู่. วารสารสาธารณสุขล้านนา 2565; 18(2): 129-43.
ศุภานัน วงศ์เสริมสิน, จารุมณฑ์ ชิโณรโส, ชื่นฤทัย ยี่เขียน. อาการและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงของลองโควิด. วารสารโรงพยาบาลชลบุรี 2565; 47(3): 233-40.
ภูมิพัฒน์ เกียรติธารีธนา. ลักษณะภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทรวงอกในผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในโรงพยาบาลกระทุ่มแบน. วารสารแพทย์เขต 4-5. 2564; 40(4): 569-77.
วริสรา กิตติวรพงษ์กิจ. การดำเนินโรคและการเปลี่ยนแปลงชั่วคราวที่พบในภาพรังสีทรวงอกของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 ที่โรงพยาบาลพะเยา. วารสารโรงพยาบาลนครพิงค์ 2564; 12(1): 149-67.
Huespe IA, Ferraris A, Lalueza A, Valdez PR, Peroni ML, Cayetti LA, et al. COVID-19 vaccines reduce mortality in hospitalized patients with oxygen requirements: Differences between vaccine subtypes. A multicontinental cohort study. J Med Virol 2023; 95(5): e28786.
สุมลรัตน์ ขนอม, เฉลียว ผจญภัย. ประสิทธิผลของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในการป้องกันการติดเชื้อและภาวะปอดอักเสบจากการติดเชื้อของอำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารศาสตร์สุขภาพและการศึกษา 2566; 3(1): 46–57.
Nakphook S, Davis WW, Prasert K, Ditsungnoen D, Lerdsamran H, Puthavathana P, et al. SARS-CoV-2 infections, vaccination, and vaccine effectiveness in Thailand, January 2021–January 2022: Results of a cohort study in four provinces. OSIR 2023; 16(4): 174-82.

Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่7 จังหวัดขอนแก่น

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ความรับผิดชอบ
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น ถือเป็นผลงานทางวิชาการหรือวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของวารสารสำนักงาน ป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น หรือ ของกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง
ลิขสิทธ์บทความ
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์จะถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักงานป้องกันตวบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น