ความชุกการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ในหญิงตั้งครรภ์ พื้นที่เขตสุขภาพที่ 7
คำสำคัญ:
หญิงตั้งครรภ์, ไวรัสตับอักเสบ บีบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยายพรรณนา เพื่อหาความชุกการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และระบาดวิทยาเชิงพรรณนาในหญิงตั้งครรภ์พื้นที่เขตสุขภาพที่ 7 กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาคือ ข้อมูลหญิงตั้งครรภ์ที่ขึ้นทะเบียนฝากครรภ์ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 7 ในช่วงเดือนมกราคม พ.ศ.2557-ธันวาคม
พ.ศ.2561 เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสำรวจข้อมูลหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ จำนวนและร้อยละ
ผลการศึกษาพบว่าหญิงตั้งครรภ์ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 7 มีความชุกการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ในปี พ.ศ. 2557–2560 ร้อยละ 1.02 1.07 0.85 1.09 และ 1.13 ตามลำดับ มีอายุอยู่ในช่วง 27–35 ปี ร้อยละ 48.6 รองลงมาคือในช่วง 19 - 26 ปี ร้อยละ 30.6 อายุน้อยสุด 14 ปีและอายุมากสุด 47 ปี ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้าง และค้าขาย ร้อยละ 34.72 จบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษามากที่สุดร้อยละ 27.86 ฝากครรภ์ครั้งแรกในไตรมาสที่ 1 ร้อยละ 59.67 รองลงมาคือไตรมาสที่ 2 ร้อยละ 31.6 ส่วนใหญ่เป็นการตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 ร้อยละ 39.29 รองลงมาคือการตั้งครรภ์ครั้งที่ 1 และ 3 ร้อยละ 30.77 และ 21.83 ตามลำดับ ในระหว่างการตั้งครรภ์ได้รับการดูแลทั่วไป
เหมือนหญิงตั้งครรภ์ปกติร้อยละ 58.41 รองลงมาคือส่งปรึกษาอายุรแพทย์ และส่งต่อโรงพยาบาลทั่วไปหรือโรงพยาบาลศูนย์ ร้อยละ 19.54 และ 18.92 ตามลำดับ
จากผลการศึกษาควรมีระบบการดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ในขณะตั้งครรภ์และหลังคลอด เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกและป้องกันการเกิดภาวะตับอักเสบ ตับแข็งและมะเร็งตับในอนาคต
References
บุญเติม แสงดิษฐ, ชัยพล บัณฑิตสิงห์, ดุสิต จันทยานนท์. การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังในชายหนุ่มไทย: ปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไข. เวชสารแพทย์ทหารบก. 2557; 67: 79-84.
ศูนย์ประสานงานโรคตับอักเสบจากไวรัส สำนักเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค. แผนยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคไวรัสตับอักเสบ พ.ศ. 2560-2564. พิมพ์ครั้งที่ 2. เจ เอส การพิมพ์ กรุงเทพฯ; 2560.
กรมควบคุมโรค. กรมควบคุมโรคห่วงปัญหาโรคตับอักเสบ [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 5 กรกฎาคม 2562]. เข้าถึงได้จาก http://pr.moph.go.th/iprg/
module.php?mod=news_print&idHot_new=84964.
Custer B, Sullivan S, Thomas K, Kris V. Global epidemiology of hepatitis B virus. J Clin Gastroenterol. 2004; 38:158-68.
Merican I, Guan R, Amarapuka D, Alexander MJ, Chutaputti A, Chien RN, et al. Chronic hepatitis B virus infection in Asian countries.JGastroenterol Hepatol. 2000; 15: 1356-61.
เฉลิมรัฐ บัญชรเทวกุล. ไวรัสตับอักเสบซี. วารสารกรมการแพทย์ 2558; 2: 6-10.
Centers for disease control and prevention.Hepatitis B Information [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 10 ธันวาคม 2562]. เข้าถึงได้จาก:http://www.cdc.gov/hepatitis/hbv/hbvfaq.htm#overview.
World Health Organization. Regional action plan for viral hepatitis in South-East Asia: 2016-2021; 2017.
ศูนย์ประสานงานโรคตับอักเสบจากไวรัส กองโรคป้องกันด้วยวัคซีน กรมควบคุมโรค. แนวทางการดำเนินงานการถ่ายทอดโรคไวรัสตับอักเสบ บี จากแม่สู่ลูก. กรุงเทพมหานคร: เจ เอส การพิมพ์; 2561.
Charline L, Pierrick A, Khamduang W, Kawilapat S, N Ngo-Giang-Huong, Ongwandee S, et al. Prevalence of chronic hepatitis B virus infection in Thailand: a systematic review and meta-analysis. International J of Infectious Dis. 2016; 5: 136-43.
McMahon BJ, Alward WL, Hall DB, Heyward WL, Bender TR, Francis DP, et al. Acute hepatitis B virus infection: relation of age to the clinical expression of disease and subsequent development of the carrier state. J Infect Dis. 1985; 151: 599-603.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่7 จังหวัดขอนแก่น
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ความรับผิดชอบ
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น ถือเป็นผลงานทางวิชาการหรือวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของวารสารสำนักงาน ป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น หรือ ของกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง
ลิขสิทธ์บทความ
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์จะถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักงานป้องกันตวบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น