ผลของการปฏิบัติสมาธิบำบัด SKT 1 ต่อระดับความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ชนิดไม่ทราบสาเหตุ ในคลินิกหมอครอบครัว เทศบาลตำบลในเมือง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย

Main Article Content

Pongsak Ratsamana,

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบสองกลุ่มวัดก่อนและหลังการทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการปฏิบัติสมาธิบำบัด SKT 1 ต่อระดับความดันโลหิตในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงชนิดไม่ ทราบสาเหตุ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้ จำนวน 64 ราย ที่มารับบริการ ณ คลินิกหมอครอบครัว เทศบาลตำบลในเมือง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ระหว่างเดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2560 ถึงมกราคม พ.ศ. 2561 คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง ตามคุณสมบัติที่กำหนดและจับคู่ให้มีความคล้ายคลึงในด้าน เพศ อายุ ระดับความดันโลหิตและระยะเวลาการเป็นโรคความดันโลหิตสูง สุ่มกลุ่มตัวอย่างในแต่ละคู่เข้ากลุ่มทดลอง 32 คนและกลุ่มควบคุม 32 คน กลุ่มทดลองได้รับการรักษาตามแนวทางการรักษาปกติร่วมกับปฏิบัติสมาธิบำบัด SKT 1 (17)โดยปฏิบัติสมาธิบำบัดวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ กลุ่มควบคุมได้รับการรักษาตามแนวทางการรักษาปกติ ใช้เครื่องวัดความดันโลหิตแบบอัตโนมัติในการวัดความดันโลหิตก่อนและหลังการทดลอง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และสถิติอ้างอิง independent t-test และ paired t-testผลการวิจัยพบว่า หลังการปฏิบัติสมาธิบำบัด SKT 1 ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงมีค่าเฉลี่ยของระดับความดันโลหิตซิสโตลิคและความดันโลหิตไดแอสโตลิคต่ำกว่าก่อนการปฏิบัติสมาธิบำบัดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) และผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงกลุ่มที่ปฏิบัติสมาธิบำบัด SKT 1 มีค่าเฉลี่ยของระดับความดันโลหิตซิสโตลิคและความดันโลหิตไดแอสโตลิค ต่ำกว่ากลุ่มที่ได้รับการดูแลตามแนวทางการรักษาปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001)ผลการศึกษาสรุปได้ว่า การปฏิบัติสมาธิบำบัด SKT 1 สามารถใช้เป็นการรักษาทางเลือกสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้

Article Details

บท
บทความวิชาการทั่วไป

References

1. Worldwide trends in blood pressure from 1975 to 2015: a pooled analysis of 1479population-based measurement studies with 19.1million participants. The Lancet 2017; 389; 37-55.

2. Mills KT, Bundy JT, Kelly TN, Reed JE,Kearny PM, Reynolds K, Chen J, et al. Global Disparities of Hypertension Prevalence and Control: A Systematic Analysis of Populationbased
Studies from 90 Countries. Circulation2016;134:441-50.

3. Kotchen TA. Hypertensive Vascular Disease.In: Kasper DL, Hauser SL, Jameson JL, Fauci AS, Longo DL, Loscalzo J, editors. Harrison’s
Principles Of Internal Medicine.19th ed.Newyork: McGraw-Hill; 2015; 1611-27.

4.วิชัย เอกพลากร, บรรรณาธิการ. สำนักงาน สำรวจสุขภาพประชาชนไทย. สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขรายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2551-2.
นนทบุรี: บริษัท เดอะ กราฟิโก ซิสเต็มส์ จำกัด,2553.

5. ศรีเพ็ญ สวัสดิมงคล, บรรณาธิการ. รายงานประจำปี 2558. กรุงเทพฯ: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์; 2559. สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.

6. ศูนย์ข้อมูลสาธารณสุข สุโขทัย 2560.[อินเตอร์เน็ต].สุโขทัย; สืบค้นเมื่อวันที่ 9กันยายน 2560. เข้าถึงได้จากhttp://info.skto.moph.go.th/ncd_register

7. HDC:Health Data Center[อินเตอร์เน็ต].นนทบุรี: ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงสาธารณสุข; 2560.[เข้าถึงเมื่อ10 ต.ค. 2560] เข้าถึงได้จาก:https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports/report.
php?source

8. Whelton PK, Carey RM, Aronow WS, Casey DE, Collins KJ, Himmelfarb CD, et al.ACC/AHA/AAPA/ABC/ACPM/AGS/APhA/ASH/ASPC/NMA/PCNA Guideline for thePrevention, Detection, Evaluation, andManagement of High Blood Pressure in Adults A Report of the American College of Cardiology/American Heart Association Task Force on Clinical Practice Guidelines. J Am Coll Cardiol. Sep 2017.

9. สมาคมโรคความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย. แนวทางการรักษาโรคความดันโลหิตสูง ในเวชปฏิบัติทั่วไป พ.ศ. 2555 ปรับปรุง พ.ศ. 2558.กรุงเทพฯ: 2558.

10. Kjeldsen SE, Naditch-Brule L, Perlini S,Zidek W, Farsang C: Increased prevalence of metabolic syndrome in uncontrolled hypertension across Europe: the Global Cardiometabolic Risk Profile in Patients with
hypertension disease survey. J Hypertens 2008; 26:2064–70.

11. ธิติสุดา สมเวที, ลินจง โปธิบาล, ภารดี นานาศิลป์. ผลของการปฏิบัติสมาธิเคลื่อนไหวไทยชี่กงต่อความดันโลหิตในผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง. พยาบาลสาร 2554; 38: 81-92.

12. Cornwall J, Phillipson OT. Mediodorsal and reticular thalamic nuclei receive collateral axons from prefrontal cortex and laterodorsaltegmental nucleus in the rat. Neuroscience Lett1988; 88: 121-6.

13. Laze SW, Bush G, Gollub RL, Fricchione GL, Khalsa G, Benson H. (2000). Functional brain mapping of the relaxation response and meditation [Autonomic Nervous System].
Neuroreport 2000;11, 1581-85.

14. ประภาส จิบสมานบุญ. อุบล สุทธิเนียม.สมาธิบำบัด SKT 2 ต่อระดับความดันโลหิตและตัวบ่งชี้ทางเคมี. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีกรุงเทพ 2556;29: 122-33.

15. สุภาพร แนวบุตร. ผลของการปฏิบัติเทคนิคสมาธิเพื่อการเยียวยา SKT 2 ต่อระดับความดันโลหิตของผูป่วยความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ. Journal of Nursing and Health Sciences
2015;9: 14-22.

16. Wolff M, Sundquist K, Lonn SR, Midlov P.Impact of yoga on blood pressure and quality of life in patients with hypertension – a controlled trial in primary care, matched for systolic blood
pressure. BMC Cardiovascular Disorders 2013;13:111.

17. สมพร กัณทรดุษฎี เตรียมชัยศรี. การปฏิบัติสมาธิเพื่อการเยียวยาสุขภาพ. กรุงเทพฯ: องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2549.

18. Mathias CJ. Management of hypertension by reduction in sympathetic activity. Hypertension 1991;17(4 Suppl): III 69-74.

19. Schneider RH, et al. A Randomized controlled trial of stress reduction in the treatment of hypertension in African-American during one year. American Journal of Hypertension 2005;18: 88-98.