การพัฒนารูปแบบการบริการคลินิกผู้สูงอายุแบบไร้รอยต่อ ในโรงพยาบาลตติยภูมิ จังหวัดอุบลราชธานี
คำสำคัญ:
รูปแบบการบริการ, คลินิกผู้สูงอายุบทคัดย่อ
การวิจัยรูปแบบวิจัยพัฒนา (Research and development) นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์ ปัญหาและความต้องคลินิกผู้สูงอายุ พัฒนารูปแบบการบริการคลินิกผู้สูงอายุ และประเมินผลลัพธ์ของการพัฒนารูปแบบการบริการคลินิกผู้สูงอายุ ในโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ การวิจัยและพัฒนาบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ศึกษาสถานการณ์ปัญหา ความต้องการคลินิกผู้สูงอายุโดยวิเคราะห์ปัจจัยภายนอก (Six Building Blocks) ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบคลินิกผู้สูงอายุ และระยะที่ 3 การประเมินผลลัพธ์ของการพัฒนารูปแบบการบริการคลินิกผู้สูงอายุ ใช้แนวคิดทฤษฎีระบบ รูปแบบการพัฒนาแบบ Plan-Do-Check-Act (PDCA) กลุ่มตัวอย่างคือ กลุ่มวิชาชีพที่ปฏิบัติงานผู้ป่วยนอก ผู้สูงอายุ และผู้ดูแล จำนวน 12 คน เครื่องมือวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถามกึ่งโครงสร้าง 2) แบบประเมินความพึงพอใจของเจ้าหน้าที่และผู้รับบริการ 3) แบบประมินความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน และ 4) แบบบันทึกการมาตรวจตามนัด ที่ผ่านการตรวจสอบค่าดัชนีความตรงตามเนื้อหาเท่ากับ .80, .81, .81 และ .80 ตามลำดับ และทดสอบความเชื่อมั่นของเครื่องมือได้ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบากเท่ากับ .88, .80, .80 และ .81 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติเชิงพรรณนา การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัย: สถานการณ์การบริการคลินิกผู้สูงอายุ พบว่า ในระบบบริการในหน่วยงานยังไม่มีการจัดตั้งคลินิกผู้สูงอายุ ไม่มีการจัดบุคลากรที่รับผิดชอบคลินิกผู้สูงอายุ ไม่มีการออกแบบการประเมินผู้สูงอายุอย่างเป็นองค์รวม มีการให้บริการผู้สูงอายุรวมในกลุ่มวัยผู้ใหญ่ รูปแบบการบริการคลินิกผู้สูงอายุ ประกอบด้วย 1) Pre Hospital ระบบการดูแลตาม Comprehensive Geriatric Assessment (CGA) 2) Intra Hospital ระบบการดูแลตาม Geriatric syndrome และการวางแผนจำหน่ายผู้สูงอายุที่มีปัญหาซับซ้อน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีกระดูกสะโพกหัก และ 3) Post Hospital การส่งต่อข้อมูล ต่อเนื่อง ด้วยข้อมูล Geriatric Assessment คืนสู่ โรงพยาบาลปลายทางเพื่อการดูแลผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์ของการพัฒนารูปแบบ พบว่า เจ้าหน้าที่ และผู้สูงอายุมีความพึงพอใจ ในระดับพอใจมาก ผู้สูงอายุได้รับการวางแผนจำหน่าย การส่งต่อการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน ระดับความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่มีการบาดเจ็บอื่น เมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้ว สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ปกติ มีการมาตรวจตามนัดร้อยละ 80 ดังนั้น รูปแบบการบริการคลินิกผู้สูงอายุ ที่มีการดูแลอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ ในคลินิกผู้สูงอายุงานผู้ป่วยนอก การดูแลก่อนจำหน่ายงานผู้ป่วยใน รวมถึงการเชื่อมโยงการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน การมาตรวจตามนัด ส่งผลทำให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างเป็นองค์รวม สามารถนำไปใช้ในการดูแลผู้สูงอายุในคลินิกผู้สูงอายุได้
เอกสารอ้างอิง
รายงานเฝ้าระวังพฤจิกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ของผู้สูงอายุ ประเทศไทย ปี พ.ศ. 2566 [อินเทอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 11 ม.ค.2567]. เข้าถึงได้จาก: https://eh.anamai.moph.go.th/th/cms-of-23/download/?did=214400&id=109319&reload=
กรมกิจการการผู้สูงอายุ. สถานการณ์ผู้สูงอายุุไทย พ.ศ. 2566. กรุงเทพฯ: กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์; 2567.
ประเสริฐ อัสสันตชัย. ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุและการป้องกัน.กรุงเทพฯ: ยูเนี่ยนคลีเอชั่น; 2554.
คณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานผู้สูงอายุแห่งชาติสำนักนายกรัฐมนตรี. แผนผู้สูงอายุ แห่งชาติฉบับที่ 2 (พ.ศ.2545-2564). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว; 2545.
สกานต์ บุนนาค, นิติกุล ทองน่วม, บรรณาธิการ. แนวทางการจัดบริการคลินิกผู้สูงอายุ. กรุงเทพฯ: ซีจีทูล; 2564.
มณฑิชา เจนพานิชทรัพย์, ณฐิฌา แก้วอำไพ, วิไลพร คลีกร. การพัฒนารูปแบบการจัดบริการสุขภาพผู้สูงอายุจังหวัดบุรีรัมย์. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9 2566;17:255-71.
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. รายงานการศึกษา การประเมินต้นทุนประสิทธิผลของการมีคลินิกผู้สูงอายุในโรงพยาบาล สังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่มีจำนวนเตียงตั้งแต่ 120 เตียงขึ้นไป [อินเทอร์เน็ต]. 2562 [เข้าถึงเมื่อ 11 ม.ค.2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.dms.go.th/backend//Content/Content_File/Research/Attach/25640706090537AM_รายงานวิจัยคลินิกผู้สูงอายุฉบับสมบูรณ์.pdf
ศูนย์สารสนเทศ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์. ข้อมูลสถิติผู้สูงอายุที่มารับบริการอายุรกรรมผู้ป่วยนอก ปี 2563-2565. อุบลราชธานี: กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์; 2566.
World Health Organization. Everybody's business - strengthening health systems to improve health outcomes: WHO's framework for action [Internet]. 2007 [cited 2023 Jan 30]. Available from:
https://iris.who.int/bitstream/handle/10665/43918/9789241596077_eng.pdf?sequence=1&isAllowed=y
พิศสมัย บุญเลิศ, เทิดศักดิ์ พรหมอารักษ์, ศุภวดี แถวเพีย. การพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องสำหรับผู้สูงอายุกลุ่มติดบ้าน ติดเตียงในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลบ้านดงมัน ตำบลสิงห์โคก อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด. สำนักงานป้องกันควบคุม โรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น 2559;23:79-87.
ธนภรณ์ พรรณราย. ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา [ปริญญานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]. หาดใหญ่: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์; 2565.
คิดณรงค์ โคตรทอง. การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุโดยภาคีผู้สูงอายุในชุมชนบ้านยางเทิง ตำบลไร่น้อย อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี [วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม; 2564.
วศินี วีระไวทยะ. การพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุตามแนวทางสุขภาพดีวิถีใหม่โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน และภาคีเครือข่ายในอำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์. วารสารวิจัยเพื่อการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต 2566;3:1-12.
กัญชรีย์ พัฒนา, อนงค์นุช สารจันทร์, เอกลักษณ์ ฟักสุข, นันทวัน สุวรรณรูป, ประภา ยุทธไตร, อรพรรณ โตสิงห์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับระดับความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของผู้สูงอายุที่อาศัยในแฟลตเคหะชุมชน. วารสารพยาบาลทหารบก 2564;22:488-91.
ดวงกมล สุวรรณ์, วิภา แซ่เซี้ย, ประณีต ส่งวัฒนา. ความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บหลายระบบ. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ 2560;9:14–25.
บุญชัย กิจสนาโยธิน, ศุภสิทธิ์ พรรณนารุโณทัย. บริการสุขภาพปฐมภูมิแบบไร้รอยต่อกับความจริงด้านมาตรฐานข้อมูลสุขภาพที่ผู้คนมักไม่ตระหนัก. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข 2564;15:131-35.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ และคณาจารย์ท่านอื่นๆ ในวิทยาลัยพยาบาลฯ ความรับผิดชอบเกี่ยวกับบทความแต่ละเรื่องผู้เขียนจะรับผิดชอบของตนเอง
