ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพด้วยอิเล็กทรอนิกส์กับพฤติกรรมสุขภาพของนิสิตพยาบาล

บทคัดย่อ

ความรอบรู้ด้านสุขภาพด้วยอิเล็กทรอนิกส์์มีความสำคัญในการส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพ โดยเฉพาะในนิสิตพยาบาลซึ่งจะเป็นแบบอย่างสำหรับผู้รับบริการในอนาคต การวิจัยเชิงพรรณนาแบบหาความสัมพันธ์นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ความรอบรู้ด้านสุขภาพด้วยอิเล็กทรอนิกส์ 2) พฤติกรรมสุขภาพ และ 3) หาความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพด้วยอิเล็กทรอนิกส์กับพฤติกรรมสุขภาพของนิสิตพยาบาล กลุ่มตัวอย่างคือ นิสิตพยาบาลหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่กำลังศึกษาในชั้นปีที่ 1-4 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 209 คน เลือกกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มอย่างเป็นระบบตามรหัสประจำตัวนิสิต เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี
2 ชุด ได้แก่ แบบสอบถามความรอบรู้ด้านสุขภาพด้วยอิเล็กทรอนิกส์ตามกรอบแนวคิดของนอร์แมนและสกินเนอร์ และแบบสอบถามพฤติกรรมสุขภาพที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นตามแนวคิด 3 อ. 2 ส. ของกองสุขศึกษา มีค่าความตรงตามเนื้อหาเท่ากับ .98 แบบสอบถามทั้ง 2 ชุด มีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาคเท่ากับ .88 และ .80 ตามลำดับ เก็บข้อมูลเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 2568 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของ สเปียร์แมน ผลการวิจัย พบว่า ความรอบรู้ด้านสุขภาพด้วยอิเล็กทรอนิกส์โดยรวมของนิสิตพยาบาลอยู่ในระดับสูงที่สุด ( =4.29, SD=.55) 2) พฤติกรรมสุขภาพโดยรวมของนิสิตพยาบาลอยู่ในระดับสูง ( =3.57, SD=.35) และความรอบรู้ด้านสุขภาพด้วยอิเล็กทรอนิกส์โดยรวมมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำกับพฤติกรรมสุขภาพโดยรวมของนิสิตพยาบาล (r=.242) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) ดังนั้น ควรจัดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้เพื่อคงไว้ซึ่งความรอบรู้ด้านสุขภาพด้วยอิเล็กทรอนิกส์และส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพโดยเฉพาะด้านการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายเนื่องจากมีพฤติกรรมอยู่ในระดับปานกลางความรอบรู้ด้านสุขภาพด้วยอิเล็กทรอนิกส์์มีความสำคัญในการส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพ โดยเฉพาะในนิสิตพยาบาลซึ่งจะเป็นแบบอย่างสำหรับผู้รับบริการในอนาคต การวิจัยเชิงพรรณนาแบบหาความสัมพันธ์นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ความรอบรู้ด้านสุขภาพด้วยอิเล็กทรอนิกส์ 2) พฤติกรรมสุขภาพ และ 3) หาความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพด้วยอิเล็กทรอนิกส์กับพฤติกรรมสุขภาพของนิสิตพยาบาล กลุ่มตัวอย่างคือ นิสิตพยาบาลหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่กำลังศึกษาในชั้นปีที่ 1-4 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 209 คน เลือกกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มอย่างเป็นระบบตามรหัสประจำตัวนิสิต เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 2 ชุด ได้แก่ แบบสอบถามความรอบรู้ด้านสุขภาพด้วยอิเล็กทรอนิกส์ตามกรอบแนวคิดของนอร์แมนและสกินเนอร์ และแบบสอบถามพฤติกรรมสุขภาพที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นตามแนวคิด 3 อ. 2 ส. ของกองสุขศึกษา มีค่าความตรงตามเนื้อหาเท่ากับ .98 แบบสอบถามทั้ง 2 ชุด มีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาคเท่ากับ .88 และ .80 ตามลำดับ เก็บข้อมูลเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 2568 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของ สเปียร์แมน ผลการวิจัย พบว่า ความรอบรู้ด้านสุขภาพด้วยอิเล็กทรอนิกส์โดยรวมของนิสิตพยาบาลอยู่ในระดับสูงที่สุด ( =4.29, SD=.55) 2) พฤติกรรมสุขภาพโดยรวมของนิสิตพยาบาลอยู่ในระดับสูง ( =3.57, SD=.35) และความรอบรู้ด้านสุขภาพด้วยอิเล็กทรอนิกส์โดยรวมมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำกับพฤติกรรมสุขภาพโดยรวมของนิสิตพยาบาล (r=.242) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) ดังนั้น ควรจัดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้เพื่อคงไว้ซึ่งความรอบรู้ด้านสุขภาพด้วยอิเล็กทรอนิกส์และส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพโดยเฉพาะด้านการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายเนื่องจากมีพฤติกรรมอยู่ในระดับปานกลาง