การดูแลเชิงวัฒนธรรมของหญิงตั้งครรภ์และมารดาหลังคลอดในชุมชนที่มี พหุวัฒนธรรมชาติพันธุ์
คำสำคัญ:
การวิจัยเชิงชาติพันธุ์วรรณนา, การดูแลเชิงวัฒนธรรม, หญิงตั้งครรภ์, มารดาหลังคลอดบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงคุณภาพโดยวิธีการศึกษาเชิงชาติพันธุ์วรรณนา เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยเรื่องการดูแลเชิงวัฒนธรรมของแม่และเด็ก 0-5 ปี ในชุมชนที่มีพหุวัฒนธรรมชาติพันธุ์ ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสังเกตอย่างมีส่วนร่วม การสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม และการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง ผู้ให้ข้อมูลเป็นผู้ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ มารดาหลังคลอดและหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการดูแล หญิงตั้งครรภ์และมารดาหลังคลอด เก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนเมษายน 2561 ถึงเดือนมีนาคม 2562 ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา และสร้างข้อสรุปผลการศึกษาสะท้อนผ่านฉากชีวิตของแม่ก่อนการแต่งงาน การเตรียมพร้อมสร้างครอบครัว การนิยมแต่งงานในคนชาติพันธุ์เดียวกัน และการมีครอบครัวสำคัญกว่าการเรียน ผู้หญิงเมื่อตั้งครรภ์ถือว่าเป็นสมบัติของครอบครัวและสามี ฉากชีวิตในขณะตั้งครรภ์ และหลังคลอดตามวิถีความเชื่อและแนวปฏิบัติในแต่ละชาติพันธุ์ การให้ความหมายของการตั้งครรภ์ว่าเป็นภาวะปกติ สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ แต่ในระยะหลังคลอดถือเป็นภาวะที่ร่างกายอ่อนแอ จากการคลอดบุตรและการเสียเลือด ต้องได้รับการฟื้นฟูดูแลด้วยยาสมุนไพร อาหารที่เฉพาะวิถีการปฏิบัติตัวที่แตกต่างจากคนปกติ ถ้าไม่ทำตามจะก่อให้เกิดภาวะความเจ็บป่วยเรื้อรังในอนาคต ผลการวิจัยนี้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาการดูแลตามวัฒนธรรมที่ตอบสนองต่อบริบททางสังคมและวัฒนธรรมของหญิงตั้งครรภ์และหลังคลอดในชุมชนพหุวัฒนธรรม
เอกสารอ้างอิง
กมลทิพย์ ตั้งหลักมั่นคง, เพชรา ทองเผ้า, จิตตานันท์ ศรีสุวรรณ, และอรพนิต ภูวงษ์ไกร. (2559). การศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่นในการดูแลมารดาและทารก โดยใช้ห้องเรียนชุมชน และการเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐาน. วารสารศูนย์การศึกษาแพทยศาสตร์คลินิก โรงพยาบาลพระปกเกล้า, 33(4), 288-299.
กัลยา มหาวัน. (2554). การศึกษาการแพทย์พื้นบ้านชาวเขาเผ่าจีนฮ่อ มูเซอดำ ปะหล่อง และไทใหญ่: กรณีศึกษา ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงดอยอ่างขาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2562, จากhttp://www.research.cmru.ac.th/2014/ris/research_ris.php.
จุฑามาศ แซ่ลิ่ม, กิตติ ตันไทย, สดใส ขันติวรพงศ์, และจักรกริช อนันตศรัณย์. (2556). การใช้การแพทย์แผนไทยร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบันในการดูแลครรภ์ กรณีศึกษาหมู่บ้านท่าโต้ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา. สืบค้นเมื่อ 15 ตุลาคม 2563, จาก http://www.hu.ac.th/conference/conference2013/Proceedings2013/ pdf/Book1/Describe6/707_22-30.pdf.
ละเอียด แจ่มจันทร์, สุรี ขันธรักษ์วงศ์, สุนทร หงส์ทอง และนพนัฐ จำปาเทศ. (2555). การแพทย์แผนไทยกับการบริบาลมารดาและทารกหลังคลอดในชุมชนภาคกลาง. ค้นเมื่อ 20 มกราคม 2563, จาก http://research. culture.go.th/medias/ct163.pdf
รุ้งลาวัลย์ เอี่ยมกุศลกิจ. (2561). วัฒนธรรมการดูแลสุขภาพทารกของครอบครัวชนเผ่าผู้ไทย จังหวัดนครพนม. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ, 34(2), 74-85.
เสถียร ฉันทะ. (2545). บทบาทหญิงชายด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ : กรณีศึกษาชุมชนม้งแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย. กรุงเทพฯ: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน. (2561). สรุปผลการตรวจราชการปีงบประมาณ 2561. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2562, จาก https://mhso.moph.go.th/mhso/frontend/web/site/index?page=2&per-page=10
Coast, E., Jones, E., Portela, A. & Lattof, S. R. (2014). Maternity Care Services and Culture: a Systematic Global Mapping of Interventions. Plos one, 9(9), 10-20.
Coast, E., Jones, E., Lattof, S. R. & Portela, A. (2016). Effectiveness of interventions to provide culturally appropriate maternity care in increasing uptake of skilled maternity care: a systematic review. Health policy and planning, 31(10), 1479-1491.
Department of children and youth. (2016). A policy on financial support for raising the new born. Retrieved March 30, 2019, from http:// www.prachuapkhirikhan.m-society.go.th/? wpfb_dl=221.
Fetterman, D. M. (1998). Ethnography: Step by Step. 2nd ed. Thousand Oaks, CA: Sage
Guba, E. G. & Lincoln, Y. S. (1994). Competing paradigms in qualitative research. In Denzin, N. K. & Lincoln, Y. S. (Eds), Handbook of qualitative research (pp.105-107). Thousand Oaks, CA: Sage.
Lecompte, M. D., & Schensul, J. J. (1999). Analyzing and Interpreting ethnographic data. Canada: AltaMira Press.
Leininger, M. M. (1995). Transcultural nursing concepts, theories, research & practices. Columbus, OH: McGraw-Hill.
Ministry of Public Health. (2017). Twenty-year national strategic plan. Retrieved June 29, 2019, from https://waa.inter.nstda.or.th/stks/pub/ 2017/20171117-Ministry of PublicHealth.pdf.
National Health Commission Office. (2009). The National Health System Constitution. Retrieved June 29, 2019 from https://www.nationalhealth.or.th/sites/default/files/upload_files/ dmdocs/Tum_finalNH_resize.pdf.
United Nations. (2019). Sustainable Development Goals. Retrieved June 29, 2019, from https://www.un.org/ sustainabledevelopment/health/
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2021 วารสารวิจัยการพยาบาลและสุขภาพ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.