ผลการใช้แนวปฏิบัติทางการพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะตกเลือด 2 ชั่วโมงหลังคลอด

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการใช้แนวปฏิบัติทางการพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะตกเลือด 2 ชั่วโมงหลังคลอดต่อการเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด และภาวะแทรกซ้อนหลังคลอด และศึกษาความเป็นไปได้ของการนำแนวปฏิบัติทางการพยาบาลไปใช้ และความพึงพอใจของพยาบาลแผนกห้องคลอด โรงพยาบาลพะเยา ต่อการใช้แนวปฏิบัติทางการพยาบาลเพื่อป้องกันการตกเลือด 2 ชั่วโมงหลังคลอดรูปแบบการศึกษาเป็นการวิจัยกึ่งทดลองชนิด 2 กลุ่มเปรียบเทียบคนละช่วงเวลา (Interrupted time design) ประชากรประกอบด้วย 1) หญิงตั้งครรภ์ที่คลอดปกติ โดยกลุ่มควบคุมได้รับการดูแลตามแนวปฏิบัติแบบเดิมตั้งแต่กันยายน 2562 ถึงเดือนมกราคม 2563  และกลุ่มทดลองได้รับการดูแลตามแนวปฏิบัติทางการพยาบาลที่พัฒนาขึ้น ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 ถึงมกราคม 2564 จํานวน 396 คน และ 2) พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติงานในห้องคลอด จํานวน 9 คน แบบประเมินความเป็นไปได้ในการนำแนวปฏิบัติไปใช้ และแบบประเมินความพึงพอใจของพยาบาล ผ่านการตรวจสอบความเที่ยงตรง โดยประเมินความสอดคล้องของข้อคำถามกับวัตถุประสงค์ (IOC) โดยผู้เชี่ยวชาญทางสูติกรรม จำนวน 5 ท่าน (IOC เท่ากับ 0.80-1) ประเมินคุณภาพของแนวปฏิบัติที่พัฒนาขึ้น โดยใช้แบบประเมิน Appraisal of Guideline for Research & Evaluation II ได้คะแนนในแต่ละหมวดมากกว่าร้อยละ50 วิเคราะห์ข้อมูลโดยนำเสนอค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบความแตกต่างโดยใช้ exact probability test และ chi-square และวิเคราะห์ผลการใช้แนวปฏิบัติทางการพยาบาล เพื่อป้องกันการตกเลือดหลังคลอดโดยใช้ relative risk regression ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มทดลอง มีอุบัติการณ์ตกเลือดหลังคลอด ต่ำกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.01) เมื่อวิเคราะห์ relative risk regression พบว่าการใช้แนวปฏิบัติทางการพยาบาลเพื่อป้องกันการตกเลือด 2 ชั่วโมงหลังคลอด ลดการตกเลือดหลังคลอดได้ร้อยละ 77 (RR 0.23, 95% CI 0.07-0.71, p=0.01) การเปรียบเทียบผลลัพธ์การเกิดภาวะแทรกซ้อนด้านการตัดมดลูกและภาวะช็อคของ หญิงตั้งครรภ์ระหว่างกลุ่มควบคุมกับกลุ่มทดลอง พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ด้านความเป็นไปได้ของการนำแนวปฏิบัติไปใช้ในห้องคลอดมีความเหมาะสม ร้อยละ 95.45 ความพึงพอใจของพยาบาลแผนกห้องคลอดต่อการใช้แนวปฏิบัติทางการพยาบาลเพื่อป้องกันการตกเลือด 2 ชั่วโมงหลังคลอด พบว่ามีความพึงพอใจในระดับดี (mean=4.20, SD.=0.67)