ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการสูบบุหรี่ครั้งแรกของเยาวชนหญิง
คำสำคัญ:
ปัจจัยทำนาย, พฤติกรรมการสูบบุหรี่ครั้งแรก, เยาวชนหญิงบทคัดย่อ
วิจัยเชิงพยากรณ์ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการสูบบุหรี่ครั้งแรกของเยาวชนหญิง เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางจิตใจ สังคม และวัฒนธรรมกับการเกิดพฤติกรรมการสูบบุหรี่ครั้งแรกและเพื่อวิเคราะห์ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการสูบบุหรี่ครั้งแรกในเยาวชนหญิง จังหวัดลำปาง กลุ่มตัวอย่างเป็นเยาวชนหญิง อายุ 15 – 19 ปี ที่มีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.ลำปาง จำนวน 650 คน คำนวณจากโปรแกรม G*power ที่ระดับ =0.10, Power = 0.90 ใช้การสุ่มแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage random sampling) เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามพฤติกรรมการสูบบุหรี่ และแบบสอบถามปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.78 สถิติที่ใช้ ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา ไค-สแควร์ และวิเคราะห์ถดถอย ไบนารี โลจิสติก ผลการวิจัยพบว่า 1).พฤติกรรมการสูบบุหรี่ของเยาวชนหญิง พบว่า มีเยาวชนหญิงจำนวน 81 คน คิดเป็นร้อยละ 12.46 โดยร้อยละ 72.84 สูบครั้งแรกเมื่ออายุมากกว่า 15 ปีและร้อยละ 4.94 สูบบุหรี่ครั้งแรกเมื่ออายุน้อยกว่า 12 ปี สถานการณ์ที่ทำให้เกิดการสูบบุหรี่ครั้งแรก พบว่า ร้อยละ 46. 91 สูบบุหรี่เพื่อการสังสรรค์หรือฉลอง ร้อยละ 38.16 สูบบุหรี่ครั้งในสถานที่ท่องเที่ยว ร้อยละ 43.21 สูบครั้งแรกกับเพื่อนของพวกเขา 2) ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการสูบบุหรี่ครั้งแรกของเยาวชนหญิง ได้แก่ การจัดการความเครียด (COPING) ทัศนคติต่อการสูบบุหรี่ (ATTI) การสูบบุหรี่ในครอบครัว (FAMILY) การสูบบุหรี่ในกลุ่มเพื่อน (FRIEND) และสื่อที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบุหรี่ (MEDIA) สามารถพยากรณ์การสูบบุหรี่ครั้งแรกของเยาวชนหญิงได้ร้อยละ 38.8 ซึ่งปัจจัยที่สามารถพยากรณ์ได้สูงสุด ได้แก่ การสูบบุหรี่ในกลุ่มเพื่อน รองลงมา คือ ทัศนคติต่อการสูบบุหรี่ และการสูบบุหรี่ในครอบครัว ดังสมการพยากรณ์ต่อไปนี้ Logit(y) = 7.852+0.865(COPING) – 1.645(ATTI) + 0.985(FAMILY) + 1.822(FRIEND) + 0.768(MEDIA) ดังนั้นครอบครัว ครูอาจารย์และบุคลากรสุขภาพควรส่งเสริมให้เยาวชนหญิงมีทักษะการจัดการความเครียด แก้ไขมุมมองต่อการสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงการเผชิญกับแบบอย่างและสื่อที่นำไปสู่การสูบบุหรี่ เพื่อป้องกันเยาวชนหญิงไม่ให้สูบบุหรี่ อันเป็นการป้องกันการเกิดปัญหาต่างๆ ที่เป็นผลจากการสูบบุหรี่
เอกสารอ้างอิง
กฤศนิน พงศ์พิศ และคณะ. ( 2554). การสำรวจความรู้ทั่วไป พฤติกรรม และทัศนคติเกี่ยวกับบุหรี่ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. วารสารเภสัชศาสตร์อีสาน,7( 2), 40-49.
จุรีย์ อุสาหะ และคณะ. (2558). สังเคราะห์อภิมานงานวิจัยปัจจัยป้องกันพฤติกรรมการสูบบุหรี่ในเยาวชนไทย. รายงานการวิจัย สำนักควบคุมการบริโภคยาสูบ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.
ชลลดา ไชยกุลวัฒนา,ประกายดาว สุทธิ และวิชานีย์ ใจมาลัย. (2560). พฤติกรรมสูบบุหรี่และปัจจัยเสี่ยงที่สัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ ของวัยรุ่นตอนต้น จังหวัดพะเยา. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 27(3), 57-68.
ธราดล เก่งการพานิช, มณฑา เก่งการพานิช และลักขณา เติมศิริกุลชัย. ( 2551). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อเด็กผู้หญิงสูบบุหรี่ในประเทศไทย. วารสารการศึกษาสุขภาพ, 31(108), 26-40
ธราดล เก่งการพานิช และ มณฑา เก่งการพานิช. (2553). การทบทวนการวิจัยในประเด็นผู้หญิงกับบุหรี่.กรุงเทพฯ: มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่.
นรา เทียมคลี, ปิยะรัตน์ นิ่มพิทักษ์พงศ์ และ ชูรุณี พิชญกุลมงคล. (2555). การสำรวจการขายบุหรี่ออนไลน์ในประเทศไทย. วารสารสาธารณสุขศาสตร์, 42(3), 32-43.
บงกช ศิลปานนท์ และ ภานุพันธ์ ลาภรัตนทอง. (2556). ศึกษาพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของนักศึกษาหญิง มทร.ล้านนา ภาคพายัพ เชียงใหม่. รายงานการวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ภาคพายัพ เชียงใหม่.
พรรณปพร ลีวิโรจน์ และ อรวรรณ คุณสนอง. (2559). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่ และผลการพัฒนาโปรแกรมการปรับความคิดและพฤติกรรม เพื่อลดการสูบบุหรี่ในวัยรุ่นนอกระบบการศึกษา . รายงานวิจัยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.).
พวงผกา คงวัฒนานนท์. (2560). ประสบการณ์การสูบบุหรี่ของหญิงวัยรุ่นตอนปลาย: กรณีศึกษานักศึกษาในกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพในสถาบันอุดมศึกษา. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 25(2), 9-18.
มณฑา เก่งการพานิช, แสงเดือน สุวรรณรัศมี, ชวาลา ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม, และธราดล เก่งการพานิช. (2557). ปัจจัยที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นหญิงในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารสุขศึกษา, 37(128), 30-44.
ระบบสถิติทางการทะเบียน. (2561). ประชากรแยกรายอายุ พื้นที่จังหวัดลำปาง. (ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์)สืบค้นเมื่อ 1 ตุลาคม 2562 จาก https://stat.bora.dopa.go.th/stat/statnew/statINTERNET/#/TableAge
ศิริพร จิรวัฒน์กุล และคณะ. (2556). ตัวแบบการบูรณาการงานป้องกันและแก้ไขการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น:ความหมายและการดำเนินงาน. วารสารสภาการพยาบาล, 32(3), 5-24.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2558). สรุปผลที่สำคัญการสํารวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มสุราของประชากร พ.ศ.2554. กรุงเทพ: กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2561). รายงานผลการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มสุราของประชากร พ.ศ. 2560. กรุงเทพฯ: สำนักงานสถิติแห่งชาติ.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง. (2562). รายงานการเฝ้าระวังการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบของประชาชนในจังหวัดลำปาง ประจำปี 2562 . ลำปาง: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง.(อัดสำเนา).
สุดารัตน์ เพียรชอบ และ พวงเพชร เกษรสมุทร. (2561). บทบาทการเป็นตัวแปรส่งผ่านของการมีสติต่อความสัมพันธ์ระหว่างความเครียด และการใช้สารเสพติดในนักเรียนระดับมัธยมศึกษา. วารสารพยาบาลศาสตร์, 36(2), 78-87.
สุวรรณี จรุงจิตรอารี,วัฒนารี อัมมวรรธน์ และจตุพร วิชิตสระน้อย. (2556). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของผู้หญิงในชุมชนเมือง. วารสารสาธารณสุขศาสตร์, 43(3), 286-289.
เสาวลักษณ์ มะเหศวร, พรนภา หอมสินธุ์ และรุ่งรัตน์ ศรีสุริยเวศน์. (2561). ศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการทดลองสูบบุหรี่ของนักศึกษาอาชีวศึกษาหญิงจังหวัดฉะเชิงเทรา. วารสารพยาบาลสาธารณสุข , 32(1), 29-44.
World Health Organization. (2015). WHO report on the global tobacco epidemic. Retrieved October 22, 2018, from http://www.apps.who.int/report
Yun, H., & Park, I. (2016). Factors influencing intermittent smoking in male and female students in Korea. Indian Journal of Science and Technology, 9(25), 1-8.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2020 วารสารการพยาบาลการสาธารณสุขและการศึกษา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.