การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบสหสาขาวิชาชีพ ในการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
คำสำคัญ:
การจัดการเรียนรู้, การเรียนรู้แบบสหสาขาอาชีพ, ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงบทคัดย่อ
การวิจัยและพัฒนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาความต้องการการดูแลของผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง 2) เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบสหสาขาวิชาชีพ (TPE) ในการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง และ 3) เพื่อศึกษาผลของการจัดการเรียนรู้แบบสหสาขาวิชาชีพ (TPE) ในการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง โดยมีวิธีดำเนินการวิจัย 3 ขั้นตอนประกอบด้วย ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาความต้องการการดูแลของผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงที่ได้รับการประเมินจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านต๋อม จำนวน 66 คน เครื่องมือที่ใช้ ประกอบด้วย แบบสอบถามผลกระทบจากภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุจำนวน 39 ข้อ ตรวจสอบความตรงของเนื้อหาด้วยผู้ทรงคุณวุฒิได้ค่า IOC 0.67-1 และค่าครอนบาค ได้ค่าความเที่ยง เท่ากับ . 0.84 ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบสหสาขาวิชาชีพด้วยการเตรียมอาจารย์ในการจัดการเรียนรู้แบบสหสาขาวิชาชีพ (TPE) การประชุมวางแผนร่วมกันระหว่างสาขาวิชาชีพ และการจัดเตรียมชุมชนสำหรับเป็นพื้นที่ในการลงฝึกปฏิบัติ และพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบสหสาขาวิชาชีพ (TPE) ขั้นตอนที่ 3การศึกษาผลการจัดการเรียนรู้แบบสหสาขาวิชาชีพของนักศึกษาพยาบาล ของวิทยาลัยพยาบาล บรมราชชนนี พะเยา นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะนิติศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยพะเยาชั้นปีที่ 4 จำนวน สาขาละ 15 คนรวมทั้งสิ้น 45 คนเครื่องมือที่ใช้ ประกอบด้วย แบบสำรวจสมรรถนะในการทำงานร่วมกันแบบสหสาขาวิชาชีพและแบบประเมินทักษะการทำงานเป็นทีม ตรวจสอบความตรงของเนื้อหาด้วยผู้ทรงคุณวุฒิได้ค่า IOC 0.67-1 และค่าครอนบาค ได้ค่าความเที่ยง เท่ากับ 0.87 และ 0.92 การวิเคราะห์ข้อมูลสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ใช้สถิติการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ Dependent t-test1 ผลการวิจัยพบว่า ภาวะพึ่งพิงทำให้มีผลกระทบต่อผู้สูงอายุในทุกด้านทั้งด้านสุขภาพ ครอบครัว ชุมชนและสถานบริการสุขภาพ ส่วนการจัดการเรียนรู้แบบสหสาขาวิชาชีพ (TPE) พบว่า มีความเหมาะสมและมีความสอดคล้องกันทุกองค์ประกอบอยู่ในระดับมาก และสามารถส่งเสริมสมรรถนะในการทำงานร่วมกันแบบสหสาขาวิชาชีพและทักษะการทำงานเป็นทีมของนักศึกษาพยาบาลและนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะนิติศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยพะเยา หลังการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< .01) โดยผลการวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพสนับสนุนให้เห็นว่านิสิตและนักศึกษาได้พัฒนาสมรรถนะอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังได้นวัตกรรมในการช่วยแก้ไขปัญหาอย่างง่ายให้กับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการจัดการเรียนรู้แบบสหสาขาวิชาชีพ สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และเข้าใจบทบาทของสาขาวิชาชีพอื่นในการดูแลสุขภาพของประชาชนในชุมชนมากขึ้น
เอกสารอ้างอิง
กมลทิพย์ ตั้งหลักมั่นคง, อัจฉรา คามะทิตย์, นพรัตน์ ธรรมวงษา และอัจฉราอาสน์ปาสา. (2562). ผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนวิชานวัตกรรมทางการพยาบาลด้วยการเรียนรู้แบบสหสาขาอาชีพต่อความพร้อมต่อการเรียนรู้แบบสหสาขาอาชีพและทักษะแห่งศตวรรษที่ 21. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 6(2),126-139
ดวงจิตต์ นะนักวัฒน์. (2550). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการดูแลตนเองของผู้สูงอายุกรณีศึกษาตำบลม่วงคำอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย. (ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนาสังคม) กรุงเทพฯ. สถาบันพัฒนบริหารศาสตร์.
ธวัชชัย ยืนยาว, จุฬารัตน์ ห้าวหาญ, และ วรนาถ พรหมศวร. (2562). ผลการจัดการศึกษาแบบสหสาขาวิชาชีพต่อการรับรู้และเข้าใจบทบาทตามสาขาวิชาชีพและความสามารถในการทำงานเป็นทีม. วารสารการพยาบาล การสาธารสุข และการศึกษา, 20 (1), 137-147.
ธานี กล่อมใจ, ทักษิกา ชัชวรัตน์, และ สิริสุดาเตชะวิเศษ. (2562). การพัฒนารูปแบบการบูรณาการการจัดการเรียนการสอนกับการบริการวิชาการเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการดูแลผู้สูงอายุที่มภาวะพึ่งพิงตามแนวคิด University-Community Engagement. วารสารการพยาบาล การสาธารสุข และการศึกษา, 20 (2), 31-47.
นันทนา อยู่สบาย. (2557). ความต้องการสวัสดิการสังคมของผู้สูงอายุในองค์การบริหารส่วนตำบลศีรษะจรเข้น้อยอำเภอบางเสาธงจังหวัดสมุทรปราการ. (สารนิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาการบริหารทั่วไปวิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ) กรุงเทพฯ. มหาวิทยาลัยบูรพา.
ปัณณธร ชัชวรัตน์ และสมานจิต ภิรมย์รื่น. (2558). การดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่าของผู้สูงอายุ. วารสารการพยาบาลการสาธารณสุข และการศึกษา, 16(3), 100-108.
วณิชาชื่นกองแก้ว. (2561). การศึกษาแบบสหวิชาชีพInterprofessional Education. นทนบุรี: มูลนิธิพัฒนาการศึกษาบุคลากรสุขภาพแห่งชาติ (ศสช.)
วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์.
วิราพรรณ วิโรจน์รัตน์, ขวัญใจ อำนาจสัตย์ซื่อ, ศิริพันธ์ สาสัตย์, พรทิพย์ มาลาธรรม และ จิณณ์สิธา ณรงค์ศักดิ์.(2557). การพัฒนาระบบบริการสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องพึ่งพาผู้อื่น. วารสารสภาการพยาบาล, 29 (3), 104-11
วิยะดา รัตนสุวรรณ. (2561). จริยธรรมในการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง: มุมมองที่แตกต่าง. วารสารการพยาบาล การสาธารณสุข และการศึกษา, 19 (3), 14-24.
สิงหา จันทริย์วงษ์. (2561). การพัฒนารูปแบบที่เหมาะสมสำหรับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชนบทโดยใช้ครอบครัวเป็นศูนย์กลาง. สุรินทร์ : มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์.
สุริยาภรณ์ อินทรภิรมย์. (2550). การดูแลตนเองของผู้สูงอายุที่อาศัยเพียงลําพังในจังหวัดสุราษฎร์ธานี. วารสารศึกษาศาสตร์, 17 (1), 95- 107.
อติญาณ์ ศรเกษตริน, อัจฉราวดี ศรียะศักดิ์, วารุณี เกตุอินทร์ และ ดาราวรรณ รองเมือง. (2562). การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบสหวิชาชีพในการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในชุมชน.วารสารวิจัยสุขภาพและการพยาบาล, 35 (22),140-152
อภิเชษฐ์ จำเนียสุข, พิชสุดา เดชบุญ, กฤติเดช มิ่งไม้, ศศิวิมล โพธิ์ภักตร์, สานุรักษ์ โพธิ์หา และ สุชานรี พานิชเจริญ. (2560). คุณภาพชีวิตผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรังในอำเภอสีชมพู. วารสารราชพฤกษ์, 15( 2), 16-26.
Brashers, V., Erickson, J. M., Blackhall, L., Owen, J. A., Thomas, S. M., & Conaway, M. R. (2016). Measuring the impact of clinically relevant interprofessional education on undergraduate medical and nursing student competencies: a longitudinal mixed methods approach. Journal of Interprofessional Care, 30(4), 448-457.
Childs, B. (2007). Complication & comorbidities: effects on diabetes self care. American Journal of Nursing, 107 (supplement 6), 55-59.
Gilbert., J.H., Yan., J., Hoffman., S.J. (2010). A WHO report: framework for action on Interprofessional education and collaborative practice. Journal of Allied Health, 39 (suppl 1), 196-7.
Frenk, J., Chen, L., Bhutta, Z. A., Cohen, J., Crisp, N., Evans, T. (2010). Health professionals for a new Century: transforming education to strengthen health systems in an interdependent world. The Lancet, 376(9756), 1923-1958.
Schmitz, C. C., Radosevich, D. M., Jardine, P., MacDonald, C. J., Trumpower, D., & Archibald, D. (2017). The interprofessional collaborative competency attainment survey (ICCAS): a replication validation study. Journal of Interprofessional Care, 31(1), 28-34.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2020 วารสารการพยายาล การสาธารณสุข และการศึกษา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.