ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดอุบัติการณ์ความเสี่ยง
คำสำคัญ:
การเกิดอุบัติการณ์ความเสี่ยง, วัฒนธรรมความปลอดภัย, ผลิตภาพทางการพยาบาลวัฒนธรรมความปลอดภัยบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณามีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการณ์และความเกี่ยวข้องของผลิตภาพทางการพยาบาลวัฒนธรรมความปลอดภัย และการเกิดอุบัติการณ์ความเสี่ยง กลุ่มตัวอย่าง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) พยาบาลที่ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยใน โรงพยาบาลพะเยา จำนวน 213 คนระหว่างเดือนกรกฎาคม – ธันวาคม ปี พ.ศ. 2561 2) ข้อมูลผลิตภาพทางการพยาบาลและข้อมูลอุบัติการณ์ความเสี่ยงของแต่ละหอผู้ป่วยที่บันทึกในฐานข้อมูล ระหว่างเดือนกรกฎาคม – ธันวาคม 2561 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบ่งออกเป็น 2 ชุด ชุดที่ 1 คือ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา ประสบการณ์และวัฒนธรรมความปลอดภัย ตรวจสอบหาความเชื่อมั่น (Reliability) โดยวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค (Conbrach’sAlpha Coefficient) ได้ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.8 ชุดที่ 2 คือ แบบตรวจสอบรายการ การเกิดอุบัติการณ์ความเสี่ยงและผลิตภาพทางการพยาบาล ตรวจสอบความตรงเชิงประจักษ์ของแบบตรวจสอบรายการ(Face Validity) โดยเสนอให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน ตรวจสอบและแก้ไขปรับปรุงตามข้อเสนอแนะ เมื่อสิ้นสุดการเก็บข้อมูลได้รับการตอบกลับและข้อมูลที่มีความสมบูรณ์จำนวน 166 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 77.93 ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างทุกคนเป็นเพศหญิง ส่วนใหญ่มีอายุอยู่ระหว่าง 41-50 ปี ร้อยละ 37.3 จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ร้อยละ 96.39 มีประสบการณ์การทำงานมากกว่า 15 ปี ร้อยละ 57. 2 ผลิตภาพทางการพยาบาลที่มีค่ามากกว่า 110 มีค่าสูง ร้อยละ 58.4 วัฒนธรรมความปลอดภัย อยู่ในระดับปานกลาง ( =3.51 S.D = 0.42) ด้านที่มีคะแนนสูงสุด คือ การสื่อสาร (
=3.85 S.D = 0.42) ด้านที่มีคะแนนต่ำสุด คือ จำนวนการรายงานเหตุการณ์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา (
=2.67 S.D = 1.66) และช่วงเดือนกรกฎาคม – ธันวาคม ปี 2561 ไม่เกิดอุบัติการณ์ความเสี่ยง ร้อยละ 60.8 และจากผลการศึกษา พบว่า ปัจจัยผลิตภาพทางการพยาบาลมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดอุบัติการณ์ความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ p< .05 ส่วนวัฒนธรรมความปลอดภัยไม่มีความสัมพันธ์กับการเกิดอุบัติการณ์ความเสี่ยง ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ p< .05
เอกสารอ้างอิง
กองยุทธศาสตร์และแผนงานสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. (2563). แผนบริหารความเสี่ยงยุทธศาสตร์ประจำปีงบประมาณพ.ศ.2563. สืบค้นเมื่อ 10 ตุลาคม 2562 จาก http://dmsic.moph.go.th/index/detail/7997
เชาวรัตน์ ศรีวสุธา. (2558). ปัจจัยที่มีผลต่อการบริหารความเสี่ยงด้านคลินิกของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี. พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยคริสเตียน.
ทรียาพรรณ สุภามณี, วิภาดา คุณาวิกติกุล และผ่องศรี เกียรติเลิศนภา. (2557). การปฏิบัติงานเกินเวลาของพยาบาลและผลลัพธ์ด้านพยาบาลในโรงพยาบาลชุมชน. พยาบาลสาร, 41(5), 48-58.
ประกาศสภาการพยาบาล เรื่อง นโยบายชั่วโมงการทำงานของพยาบาลเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย. (2560). สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2562 จาก https://www.tnmc.or.th/all-articles-16/
กฎหมายประกาศสภาการพยาบาล เรื่อง มาตรฐานบริการการพยาบาลและการผดุงครรภ์ระดับทุติยภูมิและระดับตติยภูมิ. (2548). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 122 ตอนที่ 94 ง หน้า 42.
พนิดา เขตอริยกุล. (2011).การจัดอัตรากําลังบุคลากรพยาบาล ตามระบบการจําแนกประเภทผู้ป่วย หอผู้ป่วยในโรงพยาบาลขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา, 17(1), 5-16.
เรมวล นันท์ศุภวัฒน์, อรอนงค์ วิชัยคำ และ อภิรดี นันท์ศุภวัฒน์. (2557). ความสัมพันธ์ระหว่างชั่วโมงการ ปฏิบัติงานเกินเวลาของพยาบาลและผลลัพธ์ด้านผู้ป่วย พยาบาลและองค์การในโรงพยาบาลทั่วไป. พยาบาลสาร, 41(4), 58-69.
วชิระ สุริยะวงค์, พิมพ์พรรณ ศิลปะสุวรรณ และมธุรส ทิพยมงคลกุล. (2560). วัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กรและพฤติกรรมการท างานด้วยความปลอดภัยของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลระดับตติยภูมิแห่งหนึ่ง. วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 5(1), 103-118.
วรรณเพ็ญ เนื่องสิทธะ, เพชรสุนีย์ ทั้งเจริญกุล และ กุลวดี อภิชาตบุตร. (2018). การวิเคราะห์สถานการณ์การจัดการความปลอดภัยของผู้ป่วย หอผู้ป่วยหนักศัลยกรรมโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก. Journal of the Phrae Hospital, 26 (1), 47-60
ศุภจรีย์ เมืองสุริยา. (2556). การรับรู้วัฒนธรรมความปลอดภัยผู้ป่วยของพยาบาลและอุบัติการณ์ของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ในโรงพยาบาลเชียงแสน จังหวัดเชียงราย. วารสารการพยาบาล การสาธารณสุข และการศึกษา, 14(3), 42-53.
สถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล(องค์การมหาชน). (2560). แบบสำรวจวัฒนธรรมความปลอดภัยสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล. สืบค้นจาก https://www.ha.or.th
สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน). (2561). มาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ ฉบับที่ 4. นนทบุรี: หนังสือดีวัน.
สมจิต แดนสีแก้ว, นฤมล สิงห์ดง, ดลวิวัฒน์ แสนโสม และปิยนุช บุญกอง.( 2557 ). บริบทการทำงานของพยาบาลไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 35(2), 216-226.
สะแกวัลย์ ผดุงศักดิ์. (2555).การรับรู้วัฒนธรรมความปลอดภัยผู้ป่วยของพยาบาลและอุบัติการณ์ของเหตุการณที่ไม่พึงประสงค์ในโรงพยาบาลศูนย์เขตภาคเหนือ. (วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต) เชียงใหม่. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สํานักการพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข. (2559). คู่มือการบริหารจัดการอัตรากําลังผู้ช่วยพยาบาล. นนทบุรี: เทพเพ็ญวานิสย์.
อภิญญา จำปามูลและสมพร หงษ์เวียง. (2019). ปัจจัยคัดสรรที่มีอิทธิพลต่อการบริหารความเสี่ยงด้านความรุนแรงในสถานที่ปฏิบัติงานของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลศนย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสาร พยาบาลทหารบก, 13(2), 38-48.
อรุณรัตน์ คันธา. (2557). ผลกระทบและทางออกของการขาดแคลนกำลังคนทางการพยาบาล ในประเทศไทย. วารสารพยาบาลศาสตร์, 32(1), 81-90.
อิทธิพล สูงแข็ง. (10 มกราคม 2561). แนวโน้มการฟ้องร้องทางการแพทย์[web blog message]. สืบค้นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2561 จาก https://www.hfocus.org/content/2019/01/167251
Holcomb, B. R., Hoffart, N., & Fox M. H. (2002). Defining and measuring nursing productivity: a concept analysis and pilot study. Journal of Advance Nursing, 38(4), 378-86.
Olds, D. M., & C l a r k e, S. P. (2010). The effect of work hours on adverse events and errors in health care. Journal of Safety Research, 41(2), 153-162.
Sopaporn Panthulawan. (2014). Development and Psychometric Testing of the Nursing Performance for Patient Safety Scale. Pacific Rim International Journal of Nursing Research, 20(1), 45-59.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2020 วารสารการพยายาล การสาธารณสุข และการศึกษา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.