ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการรับรู้ความสามารถ ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ในมารดาหลังผ่าคลอดทางหน้าท้อง

ผู้แต่ง

  • ปรียนุช ชัยกองเกียรติ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ยะลา
  • ภาซีน่า บุญลาภ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ยะลา
  • อาภาภรณ์ หาญณรงค์ โรงพยาบาลศูนย์ยะลา

คำสำคัญ:

การรับรู้ความสามารถในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่, มารดาหลังผ่าคลอดทางหน้าท้อง, ภาวะซึมเศร้าหลัง

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการรับรู้ความสามารถในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และวิเคราะห์ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการรับรู้ความสามารถในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในมารดาหลังผ่าคลอดทางหน้าท้องประชากรเป็นมารดาหลังผ่าคลอดทางหน้าท้องที่นอนพักรักษาตัวในแผนกสูติกรรมหลังคลอด  โรงพยาบาลศูนย์ยะลา  กลุ่มตัวอย่างจำนวน 123 คน  เลือกตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling)  เป็นมารดาหลังผ่าคลอดทางหน้าท้องวันที่ 3  ไม่มีภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าคลอด  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น แบ่งออกเป็น 3 ตอนประกอบด้วยตอนที่ 1  ข้อมูลทั่วไป ตอนที่ 2  แบบวัดภาวะซึมเศร้าหลังคลอด และตอนที่ 3  แบบวัดการรับรู้ความสามารถในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ นำแบบวัดทั้งฉบับไปตรวจความตรงเชิงเนื้อหา ผ่านผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 3 คน  หาค่าดัชนีความสอดคล้อง วิเคราะห์ได้ค่า IOC ระหว่าง 0.67 - 1.00  และหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาชได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.89  วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  แปลผลค่าคะแนนตามเกณฑ์  และหาความสัมพันธ์โดยใช้สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันและสเปียร์แมนแรงค์ผลการวิจัยพบว่า  มารดาหลังผ่าคลอดทางหน้าท้องที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง  มีอายุอยู่ในช่วง 31-45 ปี ร้อยละ 39.0  จำนวนครั้งของการคลอดบุตรอยู่ระหว่าง  0-1 ครั้ง ร้อยละ 40.7  และมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ร้อยละ 25.2   มารดามีการรับรู้ความสามารถในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในระดับสูง ร้อยละ 62.6  โดยรับรู้ในเรื่องสมาชิกในครอบครัวช่วยอำนวยความสะดวกให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่  มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (M = 4.14, SD. = 1.11)  ส่วนในเรื่องสามารถประเมินได้ว่าลูกได้รับน้ำนมเพียงพอ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (M = 3.42, SD. = 1.28)   ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์พบว่า อายุมารดา  จำนวนครั้งของการคลอดบุตร  และคะแนนภาวะซึมเศร้าหลังคลอด  ไม่มีความสัมพันธ์กับการรับรู้ความสามารถในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่  (r = .07, p = .23) (r = .12, p = .09) (r = .-.14, p = .12) ตามลำดับ  จากข้อค้นพบของการวิจัยนี้ แสดงให้เห็นว่ามารดาหลังผ่าคลอดทางหน้าท้อง  รับรู้ความสามารถในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในระดบสูง  โดยไม่ขึ้นกับอายุมารดา  จำนวนครั้งของการคลอดบุตร  และคะแนนภาวะซึมเศร้าหลังคลอดพยาบาลวิชาชีพที่เกี่ยวข้องทั้งในแผนกฝากครรภ์  ห้องคลอด  และแผนกหลังคลอด จึงควรให้ข้อมูลและความรู้ตั้งแต่ฝากครรภ์  เพื่อให้มารดามีความมั่นใจ และมีการรับรู้ความสามารถในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่ถูกต้องให้การช่วยเหลือจนประสบความสำเร็จ  มีน้ำนมเพียงพอให้บุตร ทั้งในขณะอยู่โรงพยาบาลและดูแลต่อเนื่องที่บ้าน

เอกสารอ้างอิง

กนกวรรณ โคตรสังข์, ศิริวรรณ แสงอินทร์, และอุษา เชื้อหอม. (2559). ผลของโปรแกรมการกระตุ้นการหลั่งน้ำนมต่อระยะเวลาการเริ่มไหลของน้ำนม ระยะเวลาการมาของน้ำนมเต็มเต้า และการรับรู้ความสามารถในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ในมารดาหลังผ่าตัดคลอดบุตรทางหน้าท้อง. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพา, 24(1), 13-26.

กัลพร ยังดีและชุติมา หรุ่มเรืองวงษ์. (2559). ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดในมารดาที่มีภาวะแทรกซ้อนทางสูติศาสตร์ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์. จุฬาลงกรณ์เวชสาร, 60(5), 561-574.

คชารัตน์ ปรีชล. (2559). ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด: การป้องกันและการดูแล. วารสารพยาบาลสภากาชาดไทย, 9(2), 24-35.

ดวงกมล ปิ่นเฉลียว และพรพรรณ ภูสาหัส. (2558). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความทุกข์ทรมานของสตรีหลังผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง. วารสารพยาบาลทหารบก, 16(1), 101-108.

ธิดารัตน์ หวังสวัสดิ์, นันทา กาเลี่ยง, อนงค์ ภิบาล, รัตนา ใจสมคม, และวนิสา หะยีเซะ. (2557). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน ของมารดาในจังหวัดนราธิวาส. พยาบาลสาร, 41(5), 123-133.

บรรจง จารุวงศ์. (2551). ความปวด การจัดการกับความปวดและผลของความปวดของผู้ป่วยหลังผ่าตัดช่องท้องในโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์. (วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต). ขอนแก่น. มหาวิทยาลัยราชธานี.

โบว์ชมพู บุตรแสงดี, กรรณิการ์ กันธะรักษา, และจันทรรัตน์ เจริญสันติ. (2556). ผลของการส่งเสริมสมรรถนะแห่งตนต่อความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมมารดาอย่างเดียวของมารดาที่ผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง. พยาบาลสาร, 40(3), 1-10.

พรณิศา แสนบุญส่ง และวรรณดา มลิวรรณ์. (2559). การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีคุณภาพ: ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และบทบาทของพยาบาลผดุงครรภ์. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยปทุมธานี, 8(2), 225-237.

พรนภา ตั้งสุขสันต์. (2554). การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในสตรีตั้งครรภ์. วารสารพยาบาลสาธารณสุข, 25(3), 103-119.

ศิริวรรณ แสงอินทร์. (2554). แบบวัดระดับการรับรู้ความสามารถในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ฉบับสั้นของเดนนิส (breastfeeding self-efficacy scale - short form) (อัดสำเนา).

ศศิธารา น่วมภา, นิตยา สินสุกใส, วรรณา พาหุวัฒนกร, และพฤหัส จันทร์ประภาพ. (2556). ปัจจัยส่วนบุคคลเวลาที่เริ่มให้นมแม่ และการสนับสนุนจากพยาบาลในการทำนายความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวก่อนจำหน่าย ในมารดาหลังผ่าตัดคลอด. วารสารพยาบาลศาสตร์ . 31(2), 49-59.

สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2559). รายงานสถิติรายปีประเทศไทย 2559. กรุงเทพฯ: สำนักงานสถิติแห่งชาติ.

สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. (2562). กรมอนามัยจับมือ WHO-ยูนิเซฟ-มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย เสริมพลังนมแม่ และเทคนิค 3 ดูดให้คุณค่านมแม่ครบถ้วน. สืบค้นเมื่อ 21 สิงหาคม 2562, จากhttps://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/2/02/130452/

สุดาภรณ์ พยัคฆเรือง, พรรณรัตน์ แสงเพิ่ม, และชญาดา สามารถ. (2559). ปัญหาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ระยะแรกหลังคลอด: ประสบการณ์ของมารดา. วารสารพยาบาลศาสตร์, 34(3), 30-40.

เอมอร บุตรอุดม. (2555). ความสัมพันธ์ระหว่างความพร้อมกับการยอมรับและพฤติกรรมการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาของมารดาหลังผ่าตัดคลอดในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดขอนแก่น. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา, 18(1), 29-38.

Dennis, C. L. (2003). The breastfeeding self-efficacy scale: Psychometric assessment of the short form. Journal of Obstetric, Gynecologic and Neonatal Nursing, 32(6),734-744.

Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities.Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.

Porter, M. V., Teijlingen, E., Chi Ying. & Bhattacharya, S. (2007). Satisfaction with cesarean section: Qualitative analysis of open-ended questions in a large postal survey. Birth, 34 (2),148-154.

UNICEF. (2014). UNICEF Annual Report 2014. New York, NY: United Nations Children’s Fund (UNICEF)

World Health Organization. (2007). The world health report 2007: a safer future: Global public health security in the 21st century. France: Raphael Crettaz.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

27.04.2020

รูปแบบการอ้างอิง

ชัยกองเกียรติ ป., บุญลาภ ภ., & หาญณรงค์ อ. (2020). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการรับรู้ความสามารถ ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ในมารดาหลังผ่าคลอดทางหน้าท้อง. วารสารวิจัยการพยาบาลและสุขภาพ, 21(1), 16–28. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/bcnpy/article/view/230064

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย(Research Articles)