ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการรับประทานยาของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงในชุมชน อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
คำสำคัญ:
Drug compliance, Hypertension, พฤติกรรม, การรับประทานยา, โรคความดันโลหิตสูงบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive Research) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการรับประทานยารักษาโรคความดันโลหิตสูง ศึกษาการรับรู้ความรุนแรงและความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนของโรคความดันโลหิตสูง การรับรู้ประโยชน์และการรับรู้อุปสรรคของการรับประทานยาของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง และหาความสัมพันธ์ปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยการรับรู้ต่อพฤติกรรมการรับประทานยารักษาโรคความดันโลหิตสูงของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงในชุมชน อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งงานวิจัยครั้งนี้เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 400 คน โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ การแจกแจงความถี่ (frequency) การหาค่าร้อยละ (percentage) ค่าเฉลี่ย (mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ด้วยสถิติไคสแควร์ สถิติค่าสัมประสิทธ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
ผลการวิจัย พบว่า 1) พฤติกรรมการรับประทานยาลดความดันโลหิตสูง อยู่ในระดับปานกลาง ( =1.99, S.D = 0.66) 2) การรับรู้ความรุนแรงและความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนของโรคความดันโลหิตสูงอยู่ในระดับปานกลาง (
= 2.88, S.D =0.80) การรับรู้ประโยชน์ของการรับประทานยาลดความดันโลหิตสูงอยู่ในระดับสูง (
= 3.09, S.D = 0.68) การรับรู้อุปสรรคของการรับประทานยาลดความดันโลหิตสูงอยู่ในระดับปานกลาง (
= 2.78, S.D = 0.87) 3) ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพ อาชีพ รายได้ ระยะเวลาที่รักษาโรคความดันโลหิตสูง จำนวนชนิดยาที่ใช้ในการรักษาโรคความดันโลหิตสูงการมาตรวจตามนัด มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการรับประทานยาลดความดันโลหิตสูง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) ปัจจัยการรับรู้ความรุนแรงและความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนของโรคความดันโลหิตสูง ปัจจัยการรับรู้ประโยชน์ของการรับประทานยาลดความดันโลหิตสูงและปัจจัยการรับรู้อุปสรรคของการรับประทานยาลดความดันโลหิตสูงมีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการรับประทานยาลดความดันโลหิตสูงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
คำสำคัญ: พฤติกรรมการรับประทานยา, โรคความดันโลหิตสูง
เอกสารอ้างอิง
จิตชนก ลี้ทวีสุข. (2556).พฤติกรรมการใช้ยาของผู้ป่วยสูงอายุโรคเรื้อรังในชุมชนเชียงทอง
ตำบลระแหงอำเภอเมือง จังหวัดตาก. ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลสมเด็จพระ
เจ้าตากสินมหาราชคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
จิราวรรณ เจนจบและสุพัฒนา คำสอน. (2559). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการควบคุมความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเกศกาสร อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร. การประชุมวิชาการนเรศวรวิจัย ครั้งที่ 12: วิจัยและนวัตกรรมกับการพัฒนาประเทศ.
ชุติชัย มาแจ้งและสายัญ ปัญญาทรง. (2555). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการรับประทานยาปฏิชีวนะของผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลสองพี่น้อง จังหวัดจันทบุรี. Quality of Life and Law Journal. 2012;(1):112– 123.
ชาญณรงค์ โลหิตหาญ. (2553).การศึกษาพฤติกรรมการใช้ยา : กรณีศึกษาสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
ธนารัตน์ จันดามณี. (2551). ประสิทธิผลของโปรแกรมสุขศึกษา โดยการประยุกต์ใช้แบบแผนความเชื่อ
ด้านสุขภาพร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมต่อพฤติกรรมป้องกันการสูบบุหรี่ของนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย. วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษาและการส่งเสริมสุขภาพ. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ธมนพรรษ บุญเจริญ. (2558). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการรับประทานยาในทหารที่เป็นโรคความดัน
โลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ. วารสารพยาบาลสาธารณสุข, 29(3), 2558.
สมใจ จางวาง. (2559). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคเบาหวาน
และความดันโลหิตสูงของประชาชนกลุ่มเสี่ยง. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการ
สาธารณสุขภาคใต้. ปีที่ 3 ฉบับที่ 1 มกราคม - เมษายน 2559.
สุมาลี วังธนากร และคณะ. (2551). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการรับประทานยาในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง.
สงขลานครินทร์เวชสาร. 2551;26(6).
สุมาพร สุจำนงค์. (2556). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการจัดการตนเองของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตลาดขวัญ จังหวัดนนทบุรี. วารสารวิทยาลัยพยาบาล
บรมราชชนนี กรุงเทพ ปีที่ : 29 ฉบับที่:2.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา. (2559). สถิติการเจ็บป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงของผู้ป่วยใน
จังหวัดฉะเชิงเทรา ปีงบประมาณ 2559. กระทรวงสาธารณสุข.
ศุภลักษณ์ สุขไพบูลย์ และคณะ. (2557). พฤติกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะของผู้รับบริการ โรงพยาบาล
ส่งเสริมสุขภาพตำบลสร่างโศก อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี. การประชุมวิชาการและเสนอ
ผลงานวิจัยระดับชาติ ครั้งที่ 3 ก้าวสู่ทศวรรษที่ 2: บูรณาการงานวิจัย ใช้องค์ความรู้ สู่ความยั่งยืน”.
อมรรัตน์ ภิรมย์ชม และอนงค์ หาญสกุล. (2555). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่2 ในอำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุม โรคที่ 6. ขอนแก่น, 19(1),1-10.
อรพินท์ สีขาว (2556). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลหัวเฉียว. วารสารพยาบาลทหารบก ปีที่ 14 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม 2556.
Becker, M. H. (1974). The Health Belief model and Sickrole Behavior. In Becker, M. H. (Ed.),The
Health Belief Model, and Personal Health Behavior. New York: Charles B. Slack.
Retrieved December 13, 2014.
World Health Organization. (2013). A global brief on hypertension: silent killer, global
Public health crisis: World Health Day 2013.
Janz, N. K. & Becker, M. H., (1984). The Health Belief Model: A Decade later. Health
Education Quarterly, 11(1), 1-47.