การศึกษาเปรียบเทียบผลของการใช้และไม่ใช้เพลท เลทริชไฟบรินที่มีผลต่อระดับความสูงและปริมาตรของกระดูกเบ้าฟันในงานศัลยกรรมปลูกกระดูกเบ้าฟันในผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่: การศึกษาทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบและการวิเคราะห์เมตต้า
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การผ่าตัดปลูกกระดูกเบ้าฟันโดยใช้กระดูกสะโพกในผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่มีปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อความล้มเหลวของการผ่าตัด มีหลายการศึกษาใช้เพลทเลทริชไฟบรินเพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จของการผ่าตัด แต่ผลการศึกษายังไม่สามารถชี้ชัดว่าเพลทเลทริชไฟบรินมีผลต่อระดับความสำเร็จของการผ่าตัดปลูกกระดูกเบ้าฟันโดยใช้กระดูกสะโพก การศึกษานี้เป็นการศึกษาทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบและการวิเคราะห์เมตต้าเพื่อเปรียบเทียบผลของการใช้และไม่ใช้เพลทเลทริชไฟบรินที่มีผลต่อระดับความสูงและปริมาตรของกระดูกเบ้าฟันในงานศัลยกรรมปลูกกระดูกเบ้าฟันโดยใช้กระดูกสะโพกในผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ โดยรวบรวมสิ่งตีพิมพ์จากฐานข้อมูล PubMed, Cochrane Controlled Register of Trials (CENTRAL), Science Direct, Google scholar, Clinical Trials.gov, Grey literature และ Hand searching ได้ทั้งหมด 1,713 ฉบับ ภายหลังจากการคัดเลือกแล้ว มีสิ่งตีพิมพ์ 5 ฉบับที่เข้ากับเกณฑ์การนำเข้ามาศึกษา โดยมีค่าความเที่ยงของการคัดเลือกระหว่างผู้วิจารณ์สองคนเท่ากับ 1.00 (Kappa=1.00) โดยพบ 1 จาก 5 การศึกษาที่ประเมินความเสี่ยงการเกิดอคติของ Cochrane แล้วมีความเสี่ยงสูง มี 3 การศึกษาที่สามารถนำเข้าสู่การวิเคราะห์เมตต้าและพบภาวะความต่างระหว่างการศึกษา ร้อยละ 71 (I2=71%) จึงเลือกใช้การวิเคราะห์โดยใช้ตัวแบบแบบสุ่ม พบว่าการใช้เพลทเลทริชไฟบรินร่วมกับการปลูกกระดูกเบ้าฟันสามารถช่วยให้มีการเพิ่มปริมาตรของกระดูกปลูกอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ โดยมีผลต่างเฉลี่ยระหว่างกลุ่มร้อยละ 7.42 (p=0.14) คิดเป็นร้อยละ -2.37 -17.22 ที่ช่วงเชื่อมั่นร้อยละ 95 (95% CI: -2.37 -17.22) เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ใช้เพลทเลทริชไฟบริน จากผลลัพธ์รวมของการวิเคราะห์เมตต้า ซึ่งแสดงความต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ การศึกษานี้จึงยังไม่สามารถสรุปผลได้อย่างชัดเจนถึงประโยชน์ของเพลทเลทริชไฟบรินสำหรับการปลูกกระดูกเบ้าฟันโดยใช้กระดูกสะโพกในผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ และต้องการการศึกษาที่มีกลุ่มตัวอย่างมากขึ้นอีกในอนาคต
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ทีได้รับการลงตีพิมพ์ในวิทยาสารทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นถือเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จากคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
Kuratchatchaval C, Manosudprasit M. Bone grafting in patients with alveolar cleft. OJ Thai Assoc Orthod 2010;9:63-74.
Gunaseelan R. Anantanarayanan P. Surgical correction of facial deformities in: varghese mani, editors, Alveolar bone grafting. Jaypee Medical Publishers; 2010, p.165-72.
Dado DV, Rosenstein SW, Alder ME and Kernahan DA. Long- term assessment of early alveolar bone grafts using three-dimensional computer-assisted tomography: a pilot study. Plast Reconstr Surg. 1997;99(7):1840-5.
de Barros Dias BS, Schneider T, Ladvocat Cintra HP. Platelet-rich fibrin in the alveolar bone graft in cleft lip and palate patient. Int J Growth Factors Stem Cells Dent 2018;1(1):27-31.
Martín EL, Camps MLT, Baró AR. Alveolar graft in the cleft lip and palate patient: Review of 104 cases. Med Oral Patol Oral Cir Bucal 2014;19(5):531-7.
Payak A, Bhadouria P. An complete overview of alveolar cleft bone defects and its management. IJCAR 2018;7(2):9758-64.
Monali Shah, Neeraj Deshpande, Ashit Bharwani, Prasad Nadig, Vikas Doshi, Deepak Dave. Effectiveness of autologous platelet-rich fibrin in the treatment of intra-bony defects: A systematic review and meta-analysis J Indian Soc Perodontol 2014;18(6):698-704.
W Khalil, CR de Musis, LER Volpato, KA Veiga, EMM Vieira, AM Aranha. Clinical and radiographic assessment of secondary bone graft outcomes in cleft lip and palate patients. Int Sch Res Notices 2014.
Thanasut A. Study of the platelet rich fibrin in alveolar cleft bone graft by using cone beam computed tomography: Chulalongkorn University; 2013.
Shawky H, Seifeldin SA. Does platelet-rich fibrin enhance bone quality and quantity of alveolar cleft reconstruction. The Cleft Palate Craniofac J 2016;53(5) 53(5):597-606.
Omidkhoda M, Jahnabin A, Khoshandam F, Eslami F, Zarch SHH, Afshari JT, et al. Efficacy of platelet-rich fibrin combined with autogenous bone graft in the quality and quantity of maxillary alveolar cleft reconstruction. Iran J Otorhinolaryngol 2018;30(101): 329-34.
Saruhan N, Ertas U. Evaluating of platelet-rich fibrin in the treatment of alveolar cleft with iliac bone graft by means of volumetric analysis. J Craniofac Surg 2018; 29(2):322-6.
Desai AK, Kumar N, Dikhit P, Koikude SB, Bhaduri S. Efficacy of Platelet-Rich Fibrin in Secondary Cleft Alveolar Bone Grafting. Craniomaxillofac Trauma Reconstruction Open 2019;3(1):e43-50.
Pattanittum P. Introduction to statistical methods in meta-analysis. Khon Kaen Printing.2018:63-79.
Lisa JG, Ana TF. Wound healing in older adults. R I Med J (2013) 2016:99(2);34-6.
WH Goodson, TK Hunt. Wound healing and aging. J Invest Dermatol 1979;73(1):88-91.
Wu C, Pan W, Feng C, Su Z, Duan Z, Zheng Q, et al. Grafting materials for alveolar cleft reconstruction: a systematic review and best-evidence synthesis. Int J Oral Maxillofac Surg 2018;47(3):345-56.
Canellas J, Medeiros P, Figueredo C, Fischer R, Ritto F. Platelet-rich fibrin in oral surgical procedures: a systematic review and meta-analysis. Int J Oral Maxillofac Surg 2019;48(3):395-414.
Kamal M, Aiyab AH, Bartella AK, Mitchell DA. Volumetric comparison of autogenous bone and tissue-engineered bone replacement materials in alveolar cleft repair: a systematic review and meta-analysis. Br J Oral Maxillofac Surg 2018;56(6):453-62.
