การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อป้องกันการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดดำในผู้ป่วยศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์

Main Article Content

นัยนา สังคม

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อป้องกันการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดดำในผู้ป่วยศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ โดยใช้กรอบแนวคิดวงจรคุณภาพเดมมิ่ง (PDCA) 4 ขั้นตอน คือ 1) วางแผนปฏิบัติ 2) การปฏิบัติตามแผน 3) ติดตามประเมินผล และ 4) ปรับปรุง กลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ พยาบาลผู้ใช้แนวปฏิบัติ จำนวน 25 คน และผู้ป่วยศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ จำนวน 52 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อป้องกันการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดดำ แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้ปฏิบัติเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการนำแนวปฏิบัติไปใช้ แบบประเมินการปฏิบัติตามแนวปฏิบัติ แบบบันทึกตัวชี้วัดคุณภาพการพยาบาล แบบสอบถามความพึงพอใจของพยาบาลต่อการใช้แนวปฏิบัติ แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ป่วยศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ต่อบริการ ซึ่งผ่านการทดสอบความตรงเชิงเนื้อหา (Content validity index) และความเที่ยง (Reliability) โดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟาครอนบาค (Cronbach’s Alpha Coeffient ) วิเคราะห์ข้อมูลใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและวิเคราะห์ความแปรปรวนเปรียบเทียบ 3 กลุ่มด้วย Analysis of Variance: ANOVA และสรุปจากข้อเท็จจริงผลการศึกษา พบว่า


  1. แนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อป้องกันการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดดำในผู้ป่วยออร์โธปิดิกส์

ประกอบด้วย แบบประเมินและคัดกรองความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดดำในผู้ป่วยออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลกระบี่ (Modified : Autar VTE Risk Assessment Scale, 2003) และการปฏิบัติการพยาบาลเพื่อป้องกันการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดดำในผู้ป่วยศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ ตามคะแนนความเสี่ยงของผู้ป่วย


  1. ผลลัพธ์จากการใช้แนวปฏิบัติพบว่า ด้านกระบวนการ 1) พยาบาลผู้ใช้แนวปฏิบัติมีความเห็นเกี่ยวกับความ

เป็นไปได้ในการนำแนวปฏิบัติไปใช้ในระดับมาก มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือ เกิดประสิทธิผลของการใช้แนวปฏิบัติ ( =4.12, SD=.60) น้อยที่สุดคือ ความประหยัด ( =3.80,SD=.71) ให้การปฏิบัติการพยาบาลตามค่าคะแนนกลุ่มเสี่ยงไม่ครบทุกข้อ โดยให้ข้อมูลผู้ป่วยหรือญาติถึงความจำเป็นในการป้องกันมากถึงร้อยละ 92 รองลงมาคือกระตุ้นให้ผู้ป่วย Early ambulation ร้อยละ 92  ผู้ป่วยได้รับน้ำ/สารน้ำเพียงพออย่างน้อย 2,000 ซีซีต่อวัน และการประเมินผู้ป่วยซ้ำ ร้อยละ 84 และปฏิบัติน้อยที่สุดคือ ปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาให้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ร้อยละ 32 และมีความพึงพอใจต่อการใช้แนวปฏิบัติ ระดับมากที่สุด ( =4.63, SD=.57) 2) ผู้ป่วยศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ จำนวน 52 คน ได้รับการประเมินและคัดกรองความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดดำ แบ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำ ร้อยละ 5.77 กลุ่มเสี่ยงปานกลาง ร้อยละ 42.31 ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูง ร้อยละ 38.46 กลุ่มเสี่ยงต่ำ กลุ่มเสี่ยงปานกลางและผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูง มีความพึงพอใจในภาพรวมต่อบริการในระดับมาก ( =4.00, 3.86, 3.93 SD=1.00, 0.64, 0.47) ตามลำดับ พบภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดดำในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูง จำนวน 2 ราย ร้อยละ 3.8 และไม่พบภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดดำในกลุ่มผู้ป่วยเสี่ยงต่ำและปานกลาง และไม่พบอุบัติการณ์เสียชีวิตจากภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดดำที่ปอดในทุกกลุ่มผู้ป่วย


สรุป แนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อป้องกันการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดดำในผู้ป่วยศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ สามารถนำมาใช้เป็นแนวปฏิบัติการพยาบาลเป็นแนวทางเดียวกันทั้งองค์กร พยาบาลมีความมั่นใจในการดูแล  ส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลตามมาตรฐานวิชาชีพ สามารถลดและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ และผู้ป่วยมีความพึงพอใจต่อบริการที่ได้รับ ผลลัพธ์ขององค์กร เช่น บริการที่มีคุณภาพ ค่าใช้จ่ายและวันนอนโรงพยาบาลลดลง ไม่เกิดการฟ้องร้องกรณีเสียชีวิตไม่คาดฝัน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
1.
สังคม น. การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อป้องกันการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดดำในผู้ป่วยศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์. Kb. Med. J. [อินเทอร์เน็ต]. 31 มกราคม 2022 [อ้างถึง 22 ธันวาคม 2025];4(1):1-13. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/KBJ/article/view/254395
ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ

เอกสารอ้างอิง

ศิวดล วงค์ศักดิ์ และคณะ. การศึกษาอัตราการเกิดภาวะเส้นเลือดดำอุดตันที่ขาก่อนผ่าตัดในผู้ป่วยที่เข้ารับการเปลี่ยนข้อสะโพกและข้อเข่าเทียมที่มีความเสี่ยงสูง. Rama Med J 2017; 40: 1-7

วิระพล ภิมาลย์. บทความวิชาการ ยาที่ใช้ในการรักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่หลอดเลือดดำ. สภา

เภสัชกรรม. 2560.

Chotanaphuti T, Ongnamthip P, Silpipat S, Foojareonyos T, Roschan S, Reumthantong A. Enoxaparin versus No Anticoagulation Prophylaxis after Total Knee Arthroplasty in Thai Patients: A Randomized Controlled Trial. J Med Assoc Thai 2017;100.

บูรพา ปุสธรรม. บทฟื้นฟูวิชาการ Review Article :โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในหลอดเลือดปอด

เฉียบพลัน. ศรีนครินทร์เวชสาร ปี 2557; 29:485-496.

Susan R. Kahn. How I treat post thrombotic syndrome. 2009 [2020 March]; Available

from https://ashpublications.org/blood

เกสร พรมเหล็ก. การพัฒนาและประเมินผลการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาล เพื่อป้องกันการเกิด

ภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดดำ ในผู้ป่วยวิกฤตอุบัติเหตุ (วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาล

มหาบัณฑิต). บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์; 2553.

พัชรินทร์ สุตันตปฤดา และมัชฌิมา กิติศรี. การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกเพื่อ

ป้องกันภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดดำ สำหรับผู้ป่วยศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาล

นครพิงค์. วารสารโรงพยาบาลนครพิงค์ ปี 2558;6:29-37.

สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน). เป้าหมายความปลอดภัยของผู้ป่วยของ

ประเทศไทย พ.ศ.2561. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: เฟมัส แอนด์ ซัคเซ็สฟูล; 2561.

Autar R. The management of deep vein thrombosis: the Autar DVT risk assessment

scale re-visited. Journal of Orthopaedic Nursing 2003;7:114–124

D Lillis, C Lloyd, P O’Kelly, S Kelada, S Kelly, P Gilligan. DVT Presentations to an

Emergency Department: A Study of Guideline Based Care and Decision Making. 2016

April 20202]; Available from https://www.lenus.ie

Bergmann JF, Kher A. Venous thromboembolism in medically ill patient: A call to

action. Blackwell Publishing; 2005.

จุมพล วิลาศรัศมี. โรคหลอดเลือดดำ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์กรุงเทพเวชสาร; 2550.

สินธิป พัฒนะคูหา, ปรัชญพร คำเมืองลือ, สยาม ทองประเสริฐ, อภิชนา โฆวินทะ และ อดิศักดิ์

ตันติวรวิทย์. การป้องกันภาวะลิ่มเลือดอุดหลอดเลือดดำสำหรับผู้ป่วยบาดเจ็บไขสันหลัง กลุ่มวิจัย

บาดเจ็บไขสันหลัง. J Thai Rehabil Med 2018; 28(1).

ยิ่งยง ชินธรรมมิตร์. บทความฟื้นวิชา การหาสาเหตุของภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดใน

ผู้ใหญ่. วารสารโลหิตวิทยา และเวชศาสตร์บริการโลหิต ปี 2560;27.

พรทิพย์ สารีโส และ เกศรินทร์ อุทริยะประสิทธ์. การประยุกต์ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์เพื่อ

ป้องกันหลอดเลือดดำอุดกั้นในผู้ป่วยอายุรกรรม-ศัลยกรรม ภาควิชาการพยาบาลอายุรศาสตร์

มหาวิทยาลัยมหิดล; J Nurs Sci 2011;29(2):27-36

สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ. PDCA หัวใจสำคัญของการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง. [23 เมษายน

; เข้าถึงได้จาก http://www.ftpi.or.th

ประกาย จิโรจน์กุล. การวิจัยทางการพยาบาล: แนวคิด หลักการ และวิธีปฏิบัติ. พิมพ์ครั้งที่ 3.

นนทบุรี: โครงการสวัสดิการวิชาการ สถาบันพระบรมราชชนก ; 2556.