ปัจจัยที่มีผลต่อการดูแลตนเองเพื่อชะลอภาวะไตเสื่อมในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงในคลินิกหมอครอบครัว โรงพยาบาลกระบี่ ตำบลกระบี่ใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาปัจจัยทางประชากรศาสตร์และความรู้เรื่องโรคไตเรื้อรัง ที่มีผลต่อการรับรู้เพื่อชะลอไตเสื่อมและการรับรู้พฤติกรรมการชะลอไตเสื่อมและศึกษาปัจจัยด้านการรับรู้เพื่อชะลอไตเสื่อมและการรับรู้พฤติกรรมการชะลอไตเสื่อม มีผลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อชะลอไตเสื่อม ในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ที่มีภาวะไตเสื่อมระยะ 2 -3 โดยเก็บข้อมูลในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง จำนวน 62 คน ใช้สถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณา มีการพิทักษ์สิทธิผู้ป่วยโดยดำเนินการตามแนวทางการขอจริยธรรมการวิจัยในคน ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่มีภาวะไตเสื่อมระยะ 2 และ 3 ส่วนใหญ่มีความรู้เกี่ยวกับโรคไตเรื้อรัง, มีการรับรู้โอกาสเสี่ยงของไตเสื่อมและการรับรู้ความรุนแรงของการเกิดโรคไตเสื่อม, มีการรับรู้ประโยชน์การรับรู้อุปสรรคและการรับรู้ความสามารถในการปฏิบัติ เพื่อชะลอไตเสื่อมในระดับพอใช้/ปานกลาง การรับรู้พฤติกรรมการชะลอไตเสื่อมในระดับปานกลางทุกด้าน ส่วนกลุ่มที่มีพฤติกรรมระดับพอใช้ มีการรับรู้ตามแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพระดับพอใช้/ปานกลางทุกด้านยกเว้น การรับรู้อุปสรรคของการปฏิบัติเพื่อชะลอไตเสื่อมที่มีการรับรู้ในระดับพอใช้/ปานกลางเท่ากับการรับรู้ในระดับที่ต้องปรับปรุง/ต่ำ จากผลการศึกษา ครั้งนี้จะเห็นได้ว่าผู้ป่วยต้องได้รับความรู้เรื่องโรคไตและการชะลอไตเสื่อมเพิ่มขึ้นรวมทั้งสร้างการรับรู้ตามแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพเพื่อชะลอไตเสื่อม โดยเฉพาะการรับรู้โอกาสเสี่ยงและการรับรู้ตวามรุนแรงของการเกิดภาวะไตเสื่อม และการรับรู้อุปสรรคของการปฏิบัติเพื่อชะลอไตเสื่อม ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่มีภาวะไตเสื่อมในระดับ 2 และ 3 ไม่เข้าสู่ไตเสื่อมระยะที่ 4 ต่อไป และช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ดีขึ้น
Article Details
บทความนิพนธ์ต้นฉบับจะต้องผ่านการพิจารณาโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่เชี่ยวชาญอย่างน้อย 2 ท่าน แบบผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แต่งไม่ทราบชื่อกันและกัน (double-blind review) และการตีพิมพ์บทความซ้ำต้องได้รับการอนุญาตจากกองบรรณาธิการเป็นลายลักษณ์อักษร
ลิขสิทธิ์
ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ เว้นว่าได้รับอนุญาตจากโรงพยาบาลเป็นลายลักษณ์อักษร
ความรับผิดชอบ
เนื้อหาต้นฉบับที่ปรากฏในวารสารเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน ทั้งนี้ไม่รวมความผิดพลาดอันเกิดจากเทคนิคการพิมพ์