ศักยภาพด้านการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกของทีมเฝ้าระวังสอบสวน เคลื่อนที่เร็วอำเภอเมืองกระบี่: กรณีศึกษาอำเภอเมืองกระบี่

บทคัดย่อ

          การวิจัยเชิงสำรวจครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับศักยภาพในการปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกของทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็วอำเภอเมืองกระบี่ 2) ลักษณะส่วนบุคคลของทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็วอำเภอเมืองกระบี่ 3) ปัจจัยด้านกระบวนการบริหารจัดการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกของทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็วอำเภอเมืองกระบี่ 4) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกของทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็วอำเภอเมืองกระบี่
          ประชากรที่ศึกษา คือบุคลากรที่ปฏิบัติงานเป็นแกนหลักในทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็วในสำนักงานสาธารณสุข อำเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขตำบลในพื้นที่อำเภอเมืองกระบี่ จำนวน 47 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ในการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกโดยใช้ไคสแควร์
          ผลการวิจัยพบว่า 1) ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว ส่วนใหญ่เกือบร้อยละ 70 เป็นเพศหญิง อายุเฉลี่ยประมาณ 45 ปี และมีประสบการณ์การทำงานในทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว ค่าเฉลี่ย 12.68 ปี (SD= 6.60) 2) อายุ ระดับการศึกษา บทบาทในทีมเฝ้าระวังสอบสวน และประสบการณ์ในการปฏิบัติงานระบาดวิทยา มีความสัมพันธ์ต่อการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก 3) ศักยภาพในด้านการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกของทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็วอยู่ในระดับสูงค่าเฉลี่ย 3.97 (SD= 0.059) 4) ปัจจัยด้านกระบวนการบริหารจัดการ ด้านกำลังคน ด้านการเงิน การวางแผน การจัดองค์การการบริหารงานบุคคล ด้านการอำนวยการ และด้านการควบคุมมีความสัมพันธ์ต่อการดำเนินงานป้องกันและและควบคุมโรคไข้เลือดออก จากการวิจัยมีข้อเสนอแนะว่าผู้บริหารควรสร้างเสริมองค์ความรู้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกในช่วงที่มีการปรับเปลี่ยนหน้าที่ความรับผิดชอบ สนับสนุนปัจจัยต่าง ๆ ในการดำเนินงานให้ครบถ้วนและทันเวลาพร้อมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก