ผลของการใช้รูปแบบการพยาบาลเจ้าของไข้ของผู้ป่วยไตวายเรื้อรังต่อภาวะนำเกินและความพึงพอใจในบริการพยาบาล Effects of Using Primary Nursing Care of Patients with End Stage Renal Diseases on Exess Water and Nursing Services Satisfaction

Abstract

การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง 1) เพื่อเปรียบเทียบภาวะน้ำเกินของผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่รับการบำบัดทดแทนไต โดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมระหว่างก่อนและหลังการใช้รูปแบบพยาบาลเจ้าของไข้ 2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจในบริการ พยาบาลของผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่รับการบำบัดทดแทนไตโดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมต่อการใช้รูปแบบพยาบาลเจ้าของไข้ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยที่รับการบำบัดทดแทนไตโดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ณ หน่วยไต โรงพยาบาลตำรวจจำนวน 30 คน เครื่องมือการวิจัยมีดังนี้ 1) โครงการฝึกอบรมพยาบาลเจ้าของไข้สำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่รับการบำบัดทดแทนไตโดยการ ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม 2) คู่มือการพยาบาลเจ้าของไข้ ในการดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง 3) แผนการสอนการป้องกันภาวะ น้ำเกินในผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง 4) สื่อประกอบการสอนใช้ในการสอนผู้ป่วยได้แก่ภาพพลิกประกอบแผนการป้องกันภาวะน้ำเกิน 5) คู่มือการปฏิบัติตนสำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่รับการบำบัดทดแทนไตโดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบค่าที (T-test dependent)

ผลการวิจัย พบว่า ภาวะน้ำเกินของผู้ป่วยไตวายเรื้อรังใช้รูปแบบการพยาบาลเจ้าของไข้ลดลงกว่าก่อนใช้รูปแบบการพยาบาลเจ้าของไข้ ส่วนความพึงพอใจในบริการพยาบาลของผู้ป่วยไตวายเรื้อรังต่อการใช้รูปแบบการพยาบาลเจ้าของไข้ พบว่า ความพึงพอใจโดยรวมของผู้ป่วยไตวายเรื้อรังต่อการใช้พยาบาลเจ้าของไข้อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.86

This quasi-experimental research aimed to 1) compare the excess water condition of patients with end stage renal diseases who had received dialysis treatment before and after receiving the primary nursing care plans and 2) investigate the patients’ satisfaction towards the plans. The subjects were 30 patients with end stage renal diseases who had received dialysis treatment at Police Hospital. The research instruments included 1) primary nursing care training for nurses taking care of such patients, 2) a manual for the nurses, 3) lesson plans to prevent the patients’ excessive water accumulation in the body, 4) teaching aids such as pictures to teach the patients how to prevent such a condition and 5) a self-care manual for the patients. The data were analyzed by using percentage, mean, standard deviation and T-test.

The findings were that excessive water accumulation in the patients’ body was reduced after the treatment of care plans and patients were satisfied with the plans at an average of 4.86.