ผลของการจัดการพยาบาลเจ้าของไข้ต่อพฤติกรรมการดูแลตนเอง ของหญิงตั้งครรภ์ในโรงพยาบาลเอกชน

ผู้แต่ง

  • วราภรณ์ อัครงามสิริ คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยเซนต์หลุยส์
  • สุวรรณณา อนุสันติ คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยเซนต์หลุยส์
  • แก้วตะวัน ศิริลักขณานันท์ คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยเซนต์หลุยส์

คำสำคัญ:

การจัดการพยาบาลเจ้าของไข้, พฤติกรรมการดูแลตนเองของหญิงตั้งครรภ์

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองชนิดกลุ่มเดียวทดสอบก่อนและหลังการทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรม การดูแลตนเองของหญิงตั้งครรภ์ก่อนและหลังการจัดการพยาบาลเจ้าของไข้ กลุ่มตัวอย่างคือ หญิงตั้งครรภ์ จำนวน 30 คน และ พยาบาลวิชาชีพจำนวน 8 คน ที่ปฏิบัติงานที่แผนกฝากครรภ์โรงพยาบาลสมิติเวชธนบุรี ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองคือ คู่มือการจัดการพยาบาลเจ้าของไข้ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือแบบสอบถาม พฤติกรรมการดูแลตนเองของหญิงตั้งครรภ์ต่อการดูแลของพยาบาลวิชาชีพ เครื่องมือผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจาก ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 ท่าน ค่า CVI เท่ากับ .98 และทดสอบค่าความเที่ยงได้เท่ากับ .79 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยง เบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที

ผลการวิจัยพบว่า พฤติกรรมการดูแลตนเองของหญิงตั้งครรภ์หลังใช้การจัดการพยาบาลเจ้าของไข้สูงกว่าก่อนใช้ การจัดการพยาบาลเจ้าของไข้ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.77 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จึงสรุป ได้ว่าการจัดการพยาบาลเจ้าของไข้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของหญิงตั้งครรภ์เป็นอย่างมาก

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

Bureau of Health Promotion. Department of Health: Ministry of Public Health; 2005. (in Thai)

World Health Organization (WHO). Global status report on alcohol and health 2011. Geneva: WHO Press; 2011.

Srisawad k & Panyapinijnugoon C. Stress among pregnant adolescents. Journal of the Royal Thai Army Nurse. 2016; 17(2): 7-11. (in Thai)

Marram GD, Barrett MW & Bevis EO. Primary nursing: a model for individualized. St. Louis: Mosby; 1979.

Pender NJ, Murdaugh CL & Parsons MA. Health promotion in nursing practice. 6th ed. Upper Saddle River, NJ.: Pearson Prentice Hall; 2011.

Pender NJ, Murdaugh CL & Parsons MA. Health promotion in nursing practice. 5th ed. Upper Saddle River, NJ.: Pearson Prentice Hall; 2011.

Lonuch S, Nirattharadorn M & Khampalikit, S. Predicting factors of nutritional promoting behaviors among pregnant women over 35 years of age. Journal of Nursing and Education. 2011; 4(2): 79-93. (in Thai)

Rungsiriwattanakit T. The development of model to promoting self care behaviors of adolescence pregnamcy, Phetchaburi Province. Bangkok: Krirk University; 2018. (in Thai)

Pancharean S. Effects of using health promoting program with family support on health promoting behavior of primigravida adolescents. Journal of Nursing and Education. 2014; 7(3): 113-123. (in Thai)

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

26-04-2021

รูปแบบการอ้างอิง

1.
อัครงามสิริ ว, อนุสันติ ส, ศิริลักขณานันท์ แ. ผลของการจัดการพยาบาลเจ้าของไข้ต่อพฤติกรรมการดูแลตนเอง ของหญิงตั้งครรภ์ในโรงพยาบาลเอกชน. J Royal Thai Army Nurses [อินเทอร์เน็ต]. 26 เมษายน 2021 [อ้างถึง 8 ธันวาคม 2025];22(1):313-20. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JRTAN/article/view/249036

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย