การพัฒนาโปรแกรมฝึกคิดแก้ปัญหาโดยใช้ทฤษฎีการยอมรับ และพันธะสัญญาในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นที่เสพติดสารแอมเฟตามีน
คำสำคัญ:
โปรแกรมฝึกคิดแก้ปัญหา, ทฤษฎีการยอมรับและพันธะสัญญา, การเสพติดสารแอมเฟตามีนบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาโปรแกรมฝึกคิดแก้ปัญหาโดยทฤษฎีการยอมรับและพันธะสัญญาในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ ตอนต้นที่เสพติดสารแอมเฟตามีน และเพื่อทดสอบประสิทธิผลของโปรแกรมฝึกคิดแก้ปัญหาของวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นที่เสพติด สารแอมเฟตามีน กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ผู้ชาย ที่เคยใช้สารเสพติดประเภทแอมเฟตามีนที่มีอายุระหว่าง 14-25 ปี และอยู่ในสถานบำบัด ฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด บ้านเพียรพิทักษ์ อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 30 คน สุ่มอย่างง่ายและจับคู่คะแนนเป็นก ลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 15 คน เครื่องมือวิจัย ได้แก่ 1) โปรแกรมฝึกคิดแก้ปัญหาโดยทฤษฎีการยอมรับและพันธะสัญญา ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น 2) แบบวัดการคิดแก้ปัญหาทางสังคมฉบับปรับปรุงแบบสั้น ฉบับภาษาไทย และ 3) แบบทดสอบวิสคอนซินการ์ด ซอร์ติ้ง 64 กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมฝึกคิดแก้ปัญหาโดยทฤษฎีการยอมรับและพันธะสัญญา จำนวน 9 ครั้ง ครั้งละ 50 นาที สัปดาห์ละ 3 ครั้ง 3 สัปดาห์ ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับกิจกรรมการวาดภาพ การประเมินการคิดแก้ปัญหาแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ก่อน การทดลอง หลังการทดลอง และติดตามผล 2 สัปดาห์ สถิติที่ใช้คือการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบวัดซ้ำหนึ่งตัวแปรระหว่างกลุ่ม และหนึ่งตัวแปรภายในกลุ่ม และทดสอบความแตกต่างรายคู่แบบบองเฟอรอนี ผลการวิจัยพบว่า มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างวิธีการทดลองกับระยะเวลาของการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 วัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นที่เสพติดสารแอมเฟตามีนที่ได้รับโปรแกรมฝึกคิดแก้ปัญหาโดยทฤษฎีการยอมรับและพันธะสัญญามีการคิด แก้ปัญหาสูงกว่ากลุ่มควบคุมทั้งหลังการทดลอง และเมื่อสิ้นสุดการติดตามผลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และกลุ่มทดลอง มีการคิดแก้ปัญหาหลังการทดลองและเมื่อสิ้นสุดการติดตามผลสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สรุปได้ ว่า โปรแกรมฝึกคิดแก้ปัญหาโดยทฤษฎีการยอมรับและพันธะสัญญามีประสิทธิภาพในการเพิ่มทักษะการคิดแก้ปัญหาของวัยรุ่นและ ผู้ใหญ่ตอนต้นที่เสพติดสารแอมเฟตามีน
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Volkow, N. D. Drugs, Brains, and Behavior: The Science of Addiction. Journal of Drug Addiction, Education and Eradication 2011; 7(3): 133-155.
Wongpanarak, N. & Chaleoykitti, S. The Role of the Nurse in Addiction Counseling, Journal of The Royal Thai Army Nurses 2018; 19(1): 16-23. (In Thai)
Haenjohn, J. Cognitive psychology. Bangkok, Grandpoint, 2018b. (In Thai)
Haenjohn, J. Acceptance and commitment therapy. Bangkok, Grandpoint, 2018 a. (In Thai)
Haenjohn, J. A Development of Acceptance and commitment training program on enhancing social problem solving of undergraduate students. Journal of Faculty of Education 2015; 25(3): 98-112. (In Thai)
Kongs, S. K., Thompson, L. L., Iverson, G. L., and Heaton, R. K. Wisconsin Card Sorting Test®-64 Card Version: Professional Manual. Odessa, FL. Psychological Assessment Resource. 2000.
Howell, D. C. Statistical Methods for Psychology (6thed). Australia: Thomson/Wadsworth, 2007.
Garland, E. L., Hanley, A. W., Baker, A. K., & Howard, M. O. Biobehavioral mechanisms of mindfulness as a treatment for chronic stress: An RDoC perspective. Chronic Stress 2017; 1: 1-14.
Halliburton, A. E. & Cooper, L. D. Applications and adaptations of Acceptance and Commitment Therapy (ACT) for adolescents. Journal of Contextual Behavioral Science 2015; 4(1): 1-11.
Franco, C., Amutio, A., Mañas, I., Gázquez, J. J., & Pérez-Fuentes, M. C. Reducing anxiety, geriatric depression and worry in a sample of older adults through a mindfulness training program. Terapia psicologica 2017; 35(1): 71-79.
Gendron, B., & Haenjohn, J. The informal to formal learning development of emotional capital for sustainable citizenship development, in P. Cunningham & N. 2010.
Haenjohn, J. A development of executive functions of the brain of adolescent by integrative learning modules. Journal of Faculty of Education, 2017; 28(2): 130-144. (In Thai)
Haenjohn, J., Sirithadakunlaphat, S., & Supwirapakorn, W. Development of training on promoting executive functions of the brain in adolescent, Journal of The Royal Thai Army Nurses 2018; 19(2): 220-229. (In Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารพยาบาลทหารบกเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการหรือสมาคมพยาบาลทหารบก ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลทหารบก
The ideas and opinions expressed in the Journal of The Royal Thai Army Nurses are those of the authors and not necessarily those
of the editor or Royal Thai Army Nurses Association.


