ภาวะเศร้าโศกจากการสูญเสีย กรณีสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความชุกและปัจจัยที่เกี่ยวข้องของภาวะเศร้าโศกที่ผิดปกติจากการสูญเสีย
กรณีสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในผู้ป่วยนอกจิตเวชและผู้ป่วย
นอกโรคทั่วไป โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
วิธีการศึกษา เป็นการศึกษาแบบภาคตัดขวาง เก็บข้อมูล ณ คลินิกจิตเวชและคลินิกเวชปฏิบัติทั่วไป
โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ระหว่างเดือนมีนาคมถึงเมษายน พ.ศ.2560 ทำการสัมภาษณ์ผู้ป่วย
จิตเวชและผู้ป่วยโรคทั่วไปที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กลุ่มละ 88 ราย โดยใช้แบบสอบถามข้อมูลทั่วไปและ
แบบประเมินอารมณ์เศร้าโศกที่ผิดปกติจากการสูญเสียฉบับภาษาไทย (Thai version of inventory of
complicated grief) วิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์เศร้าโศกที่ผิดปกติจากการ
สูญเสียระหว่าง 2 กลุ่มผู้ป่วย โดยใช้ two-way ANOVA with repeated measures และวิเคราะห์ปัจจัย
ที่เกี่ยวข้องโดยใช้ multiple logistic regression
ผลการศึกษา ความชุกของภาวะเศร้าโศกที่ผิดปกติจากการสูญเสียไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มผู้ป่วย
จิตเวชและกลุ่มผู้ป่วยโรคทั่วไป ทั้งในวันที่เกิดเหตุการณ์ (40.9% vs 46.6%, p=0.543) 1 เดือนหลังเกิด
เหตุการณ์ (25.0% vs 27.3%, p=0.864) และวันที่ตอบแบบสอบถาม (21.6% vs 13.6%, p=0.235) และ
เมื่อเวลาผ่านไปภาวะเศร้าโศกที่ผิดปกติจากการสูญเสียลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ทั้งกลุ่มผู้ป่วย
จิตเวช (p<0.0001) และกลุ่มผู้ป่วยโรคทั่วไป (p<0.0001) แต่กลุ่มผู้ป่วยจิตเวชมีการลดลงของภาวะ
เศร้าโศกที่ผิดปกติจากการสูญเสียน้อยกว่ากลุ่มผู้ป่วยโรคทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (95%CI=-7.9,
-2.6) โดยปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดกับภาวะเศร้าโศกที่ผิดปกติจากการสูญเสียในกลุ่มผู้ป่วยจิตเวช
ในวันที่เกิดเหตุการณ์ ได้แก่ เคยมีประสบการณ์สูญเสียบุคคลสำคัญในชีวิต แต่ที่ระยะ 1 เดือนหลังเกิด
เหตุการณ์และวันที่ตอบแบบสอบถามพบว่า การมีโรคประจำ ตัวทางกายเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ส่วนใน
กลุ่มผู้ป่วยโรคทั่วไปพบว่า มีเพียงปัจจัยเรื่องการมีสถานภาพสมรสเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับภาวะเศร้า
โศกที่ผิดปกติจากการสูญเสีย
สรุป การติดตามดูแลภาวะเศร้าโศกที่ผิดปกติจากการสูญเสียในกลุ่มผู้ป่วยจิตเวชเป็นเรื่องสำคัญ โดย
เฉพาะในผู้ป่วยที่เคยมีประสบการณ์สูญเสียบุคคลสำคัญในชีวิตหรือมีโรคประจำตัวทางกายร่วมด้วย
Article Details
บทความที่ส่งมาเพื่อพิจารณา ต้องไม่เคยตีพิมพ์หรือได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์ในวารสารฉบับอื่น และต้องไม่อยู่ระหว่างการส่งไปพิจารณาในวารสารอื่น