ผลของการใช้รูปแบบเชิงกระบวนการในการจัดการความเครียดต่อพัฒนาการของความเข้มแข็งในการมองโลกและการปรับตัวในการทำงานของนักศึกษาพยาบาล
Main Article Content
บทคัดย่อ
การเปลี่ยนผ่านบทบาทจากนักศึกษาสู่บทบาทพยาบาลใหม่ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีความยุ่งยาก และเป็นเหตุให้เกิดความเครียด การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของการใช้รูปแบบเชิงกระบวนการในการจัดการความเครียดที่มีต่อความเข้มแข็งในการมองโลก และการปรับตัวในการทำงาน
การวิจัยครั้งนี้ใช้แบบแผนการวิจัย แบบกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลังการทดลอง (One group pretest-posttest design) กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 4 ซึ่งอาสาสมัครเข้าร่วมการวิจัย จำนวน 17 คน เครื่องมือที่ใช้มี 2 ประเภท คือ 1) รูปแบบเชิงกระบวนการในการจัดการความเครียด 2) แบบสอบถามความเข้มแข็งในการมองโลกและการปรับตัวในการทำงาน วิเคราะห์ข้อมูลใช้การหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบใช้ Wilcoxon matched pair signed-rank test และ คะแนนพัฒนาการ (Growth score) ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า ก่อนทดลองนักศึกษามีคะแนนความเข้มแข็งในการมองโลกและการปรับตัวในงานอยู่ในระดับมาก ( = 3.79, SD = 0.38 และ = 3.65, SD = 0.38) หลังทดลองนักศึกษามีคะแนนความเข้มแข็งในการมองโลกและการปรับตัวในงานสูงขึ้น ( = 4.34, SD = 0.30 และ = 4.26, SD = 0.22) ผลการเปรียบเทียบพบว่าคะแนนหลังการทดลองสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพจากการให้นักศึกษาพยาบาลได้สะท้อนความคิดหลังเข้าร่วมการวิจัย พบว่า นักศึกษาเห็นว่าการจัดการความเครียดเป็นสิ่งจำเป็นในการปฏิบัติงาน การเข้าร่วมกิจกรรมตามรูปแบบเชิงกระบวนการในการจัดการความเครียดส่งผลให้เพิ่มความสามารถในการปรับตัวในการทำงาน และการสร้างทัศนคติในทางบวกจะช่วยให้เกิดพลังในการทำงานและไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรคที่พบ
การใช้รูปแบบเชิงกระบวนการจัดการความเครียดสามารถเพิ่มความเข้มแข็งในการมองโลกและการปรับตัวในการทำงานได้ ควรมีการใช้รูปแบบนี้เพื่อสนับสนุนความเข้มแข็งในการมองโลกและการปรับตัวในการทำงานให้แก่นักศึกษาในสถาบันการศึกษาอื่นต่อไป
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดนนทบุรี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดนนทบุรี และคณาจารย์ท่านอื่น ในวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว