การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองต่อเนื่องที่บ้าน
คำสำคัญ:
การดูแลต่อเนื่องที่บ้าน, ผู้ป่วยรักษาแบบประคับประคองบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองต่อเนื่องที่บ้าน เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจงเป็นผู้ป่วยในคลินิกการดูแลแบบประคับประคองโรงพยาบาลปง แบ่งการศึกษาเป็น 3 ระยะ นำทฤษฎีระบบมาเป็นกรอบแนวคิดในการศึกษา แนวคิดทรัพยากรในการบริหาร (4M) มาใช้ในการวิเคราะห์และพัฒนาระบบ และใช้วงจร PAOR 4 ขั้นตอน มาใช้เป็นวงล้อในการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ผลการศึกษาพบว่า ภายหลังการพัฒนาระบบ ผู้ป่วยแบบประคับประคองได้รับการเยี่ยมบ้านเพิ่มขึ้นในระยะที่ 1-3 ร้อยละ 30.55, 35.48 และ 73.91 ตามลำดับ และผู้ป่วยได้รับการดูแลโดยสหสาขาวิชาชีพต่อเนื่องที่บ้านตามระดับคะแนน PPS ร้อยละ 76.47 และมีศูนย์อุปกรณ์การแพทย์สนับสนุนให้แก่ผู้ป่วยยืมใช้ที่บ้านเพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วยร้อยละ 100 ช่วยให้ผู้ป่วยลดค่าใช้จ่าย สามารถกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านในวาระสุดท้ายของชีวิตได้ และสามารถช่วยเพิ่มรายได้ของโรงพยาบาล ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองต่อเนื่องที่บ้าน จะช่วยก่อให้เกิดทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิผลแก่ผู้ป่วยและโรงพยาบาล
เอกสารอ้างอิง
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย. สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย 2559. กรุงเทพมหานคร: อมรินทร์ พริ้นติ้งแอนด์พลับชิง จำกัด (มหาชน); 2560.
สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข. สถิติที่สำคัญสาธารณสุข. [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 24 กรกฎาคม 2562]; เข้าถึงได้จาก: http://bps.ops.moph.go.th/statistic/statisticalThailand 2011/2.2 pdf
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย. สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย 2556. กรุงเทพมหานคร: อมรินทร์ พริ้นติ้งแอนด์พลับชิง จำกัด (มหาชน); 2557.
World Health Organization. Definition of palliative care [homepage on the Internet]. Geneva: The Orga-nization 2002. [Internet]. [Cited 2019 Apr 4]; Available from: http://www.who.int/cancer/palliative/defini-tion/en/
กรมการแพทย์. List disease of Palliative care and Functional unit. กรุงเทพมหานคร: อาร์ตควอลิไฟท์ จำกัด; 2559.
อรพรรณ ฟูมณีโชติ. เยี่ยมบ้านกับการดูแลผู้ป่วยประคับประคอง. สงขลานครินทร์เวชสาร. 2560; 35(4):399-406.
โรงพยาบาลปง. สรุปผลการดำเนินงานโรงพยาบาลปง ประจำปีงบประมาณ 2560. (เอกสารไม่ตีพิมพ์); 2560.
ชุติมา อรรคลีพันธ์. (2553). การสำรวจการเข้าถึงสถานพยาบาลและรายจ่ายด้านสุขภาพของผู้ป่วยที่เสียชีวิต สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข: 2548-2549; 2553.
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย. [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 24 กรกฎาคม 2562]; เข้าถึงได้จาก: https://www.skko.moph.go.th/dward/document_file/perdev/common_form_upload_file/20150316154846_2129601774.pdf2557
Mahoney, J. T. The management of resources and the resource of management. Journal of business research. 1995; 33(2), 91-101.
Kemmis, S., & McTaggart, R. The action research planner. Geelong: Deakin University Press; 1990.
World Health Organization. Pain relief and Palliative Care. In: National Cancer Control Programmes. Policies and managerial guidelines. 2nd ed. WHO Geneva. 2002; 2: 83-91.
สำนักการพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข. ระบบบริการพยาบาลแบบประคับประคอง. ปทุมธานี: สื่อตะวัน จำกัด; 2559.
ปิยะวรรณ โภคพลากรณ์, รูปแบบการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองในประเทศไทย. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข. 2559; 26(3), 41-51.
อัลจนา ภู่น้อย. การพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบ: กรณีศึกษา. วารสารโรคและภัยสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3. 2561; 11 (1):61-77.
ณิสาชล นาคกุล. การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยเรื้อรังกลุ่มติดบ้าน ติดเตียงในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข. 2561; 28(3):36-50.
กมลพร สกุลพงศ์, วิริยา โพธิ์ขวาง-ยุสท์ และเบญจวรรณ งามวงศ์วิวัฒน์. การพัฒนารูปแบบการดูแลแบบประคับประคองที่ใช้ชุมชนเป็นฐานสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง: กรณีศึกษาบ้านปันรัก สุราษฎร์ธานี. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข. 2560; 27(ฉบับพิเศษ):90-103.
อุปทิน รุ่งอุทัยศิริ. การพัฒนาต้นแบบระบบการดูแลประคับประคองผู้ป่วยระยะสุดท้ายโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนอำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข. 2551; 2(2): 1021-30.
สมจิตร ประภากร, ศุภรักษ์ มั่นน้อย,ศิริพร สวยพริ้ง,วราภรณ์ พันธุ์อร่าม และอัญชลี สุขขัง. การพัฒนาระบบบริการพยาบาลแบบประคับประคองในผู้ป่วยมะเร็งที่เข้ารับการรักษาในสถาบันมะเร็ง.วารสารกองการพยาบาล. 2558; 42(3): 50-68.37
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2020 วารสารโรคและภัยสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ประกาศเกี่ยวกับลิขสิทธิ์
|
บทความที่เผยแพร่ในวารสารโรคและภัยสุขภาพสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน |
นโยบายความเป็นส่วนตัว
|
ชื่อและที่อยู่ อีเมล์ ที่ระบุในวารสารโรคและภัยสุขภาพสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ จะใช้เพื่อระบุตามวัตถุประสงค์ของวารสารเท่านั้น และจะไม่นำไปใช้สำหรับวัตถุประสงค์อื่น หรือต่อบุคคลอื่น |


