ผลของโปรแกรมการรับรู้ความสามารถแห่งตนต่อพฤติกรรมการควบคุมความดันโลหิตในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ โรงพยาบาลโคกสูง จังหวัดสระแก้ว
คำสำคัญ:
การรับรู้ความสามารถแห่งตน, พฤติกรรมการควบคุมความดันโลหิตบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการรับรู้ความสามารถแห่งตนต่อพฤติกรรมการควบคุมความดันโลหิตในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ ของโรงพยาบาลโคกสูง จังหวัดสระแก้ว กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมระดับความดันไม่ได้ คัดเลือกจากกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจงจำนวน 50 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบบันทึกการควบคุมอาหาร แบบสอบถามพฤติกรรม แบบสอบถามการรับรู้ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณา สถิติไคสแควร์ Dependent t- test และ Independent t- test ผลการวิจัยพบว่า หลังได้รับโปรแกรม กลุ่มทดลองมีการรับรู้ความสามารถแห่งตนหลังการทดลอง(M= 4.78 , SD= .36)สูงกว่าก่อนการทดลอง(M= 1.98 , SD = .89) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ(p < .01) กลุ่มทดลองมีพฤติกรรมการควบคุมอาหาร การออกกำลังกายและการจัดการความเครียดสูงหลังการทดลอง(M= 4.26 , SD= .43)สูงกว่าก่อนทดลอง(M= 2.31 , SD= .87) และเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม พบว่าหลังการทดลองกลุ่มทดลองมีพฤติกรรมการควบคุมอาหาร การออกกำลังกายและการจัดการความเครียดสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ(p < .01) ค่าเฉลี่ยระดับความดันซิสโตลิคกลุ่มทดลองหลังได้รับโปรแกรม(M= 119.83 , SD= 10.21) ต่ำกว่าก่อนได้รับโปรแกรม (M= 149.80 , SD= 6.78) และค่าเฉลี่ยระดับความดันไดแอสโตลิคหลังได้รับโปรแกรม(M= 76.59 , SD= 6.53) ต่ำกว่าก่อนได้รับโปรแกรม (M= 92.92 , SD= 5.46)และต่ำกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.01) การวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าโปรแกรมการรับรู้ความสามารถแห่งตนต่อพฤติกรรมการควบคุมความดันโลหิตในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในเรื่องการควบคุมอาหารได้ดีขึ้น และทำให้ระดับความดันโลหิตลดลง อาจมาจากผู้ป่วยมีการปฏิบัติได้ถูกต้องและการกระตุ้นติดตามที่บ่อยครั้ง ต้องมีการติดตามผลในระยะยาวต่อไป
เอกสารอ้างอิง
2.สถาบันวิจัยและประเมินเทคโนโลยีทางการแพทย์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.คู่มือการให้ความรู้เพื่อจัดการภาวะความดันโลหิตสูงด้วยตนเอง:พิมพ์ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก;2555.
3. สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.คู่มือบูรณาการเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพโดยชุมชน:โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจำกัด;2558.
4.สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.รู้ทันมหันตภัยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ภัยเงียบใกล้ตัว: พิมพ์ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก;2559.
5.สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย.แนวทางการรักษาโรคความดันโลหิตสูงในเวชปฏิบัติทั่วไป.ฉบับปรับปรุง;2558.
6.ภัสราวลัย ศีติสาร,อรุณวรรณ สุวรรณรัตน์,จารุวรรณ ใจลังกา.ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยภาวะความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ โรงพยาบาลดอกคำใต้ อำเภอตอกคำใต้ จังหวัดพะเยา. วารสารสาธารณสุขล้านนา 2555;9(2):120-136.
7. Nguyen Q,Dominguez J,Nguyen L,Gullapalli.Hypertension managment:an update.Am Health Drug Benefits2010;3(1):47-55.
8. The JNC 7 Report. The Seventh Report of the Joint National Committee on Prevention, Detection, Evaluation and Treatment of High Blood Pressure.The Journal of American Medical Association ; 289: 2560-2572.
9.สถาบันวิจัยและประเมินเทคโนโลยีทางการแพทย์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.แนวทางเวชปฏิบัติการออกกำลังกายในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง:โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์;2555.
10.เนติมา คูนีย์.แนวทางเวชปฏิบัติการออกกำลังกายในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง.สถาบันวิจัยและประเมินเทคโนโลยีทางการแพทย์;2555.
11.American College of Sports Medicine..ACSM’ s guidelines for Exercise testing and Prescription ( 9th ed.) . Baltimore: Wiliams & Wilkins;2014.
12.กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข.คู่มือธงโภชนาการ;2552.
13.World Health Organization .Diet Nutrition and The Prevention of the chronicdiseases.report of a joint WHO/FAO consulttation,Geneva,28 January-1 February 2002;2003.13-46.
14. Colin,PP.,Chow,D.,Miller III,E.R.,Svetkey,LP.,Harsha,DW.,Appel,LJ.et al.The effect of dietary patterns on blood pressure control in hypertensive patients:Result from the Dietary Approaches to Stop Hypertension(DASH)trial.American Journal of Hypertension2000;13(9):949-955.
15.Bandura,A.self-afficacy:The exercise of control.New York:W.H.Freeman and Company;1997.ปรับเปลี่ยนพฤติอาหารและทางกาย
16.สุนทรีย์ คำเพ็ง,อรธิรา บุญประดิษฐ์.ผลของการจัดโปรแกรมการสร้างเสริมสุขภาพร่วมกับการสนับสนุนทางสังคมในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง หมู่ที่ 9 ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี.วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข 2555;22(2):112-123.
17.จุฑารัตน์ ทิพย์ญาณ.การรับรู้ความสามารถในการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ในอำเภอนาบอน จังหวัดนครศรีธรรมราช(วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต:มหาวิทยาลัยทักษิณ;2554.
18.ชลการ ชายกุล.ผลของโปรแกรมส่งเสริมดารจัดการตนเองและการมีส่วนร่วมของครอบครัวต่อพฤติกรรมสุขภาพและความดันโลหิตผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง.(วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตร์).การพยาบาลผู้ใหญ่, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์;2556.
19.ยุพาพร นาคกลิ้ง และ ปราณี .ผลของโปรแกรมการสร้างเสริมการรับรู้ความสามารถตนเองต่อพฤติกรรมสุขภาพของผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมระดับความดันโลหิตไม่ได้.วารสารสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมย์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี 2560;6(1):27-35.
20.อารีรัตน์ คนสวน.ผลของโปรแกรมการส่งเสริมสมรรถนะแห่งตนและการสนับสนุนทางสังคมต่อพฤติกรรมการควบคุมอาหารและระดับความดันโลหิตในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้.(วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต):มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์;2557.
21.สุพัชรินทร์ วัฒนกุล,มณีรัตน์ ธีระวิวัฒน์,นิรัตน์ อิมามี และ สุปรียา ตันสกุล.โปรแกรมการเรียนรู้ในการจัดการตนเองเรื่องอาหารและออกกำลังกายของกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง จังหวัดบุรีรัมย์.วารสารการพยาบาลสาธารณสุข 2556;27(1):16-30.
22.กชกร ธรรมนำศีล,ขวัญใจ อำนาจสัตย์ซื่อ,พัชราพร เกิดมงคล และ จินตนา อาจสันเที๊ยะ. ผลของโปรแกรมการส่งเสริมการดูแลตนเอง ต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ เขตกรุงเทพมหานคร.วารสารพยาบาลสาธารณสุข 2558;29(2),43-55.
23.ชดช้อย วัฒนะ,จงรักษ์ ศุภกิจเจริญ,ณฐวรรณ รักวงศ์ประยูร และ ริญญา แร่ทอง.ผลของโปรแกรมการส่งเสริมสมรรถนะการจัดการตนเองเพื่อควบคุมโรคต่อพฤติกรรมการควบคุมโรคระดับความดันโลหิต และคุณภาพชีวิตของผู้เป็นโรคความดันโลหิตสูงในการศึกษาระยะยาว.วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี 2558; 26(1),72-89.
24.อัมมร บุญช่วย.ผลของโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพสาหรับผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง กรณีศึกษาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลไทรทอง อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2558;3(2),231-244.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ประกาศเกี่ยวกับลิขสิทธิ์
|
บทความที่เผยแพร่ในวารสารโรคและภัยสุขภาพสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน |
นโยบายความเป็นส่วนตัว
|
ชื่อและที่อยู่ อีเมล์ ที่ระบุในวารสารโรคและภัยสุขภาพสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ จะใช้เพื่อระบุตามวัตถุประสงค์ของวารสารเท่านั้น และจะไม่นำไปใช้สำหรับวัตถุประสงค์อื่น หรือต่อบุคคลอื่น |


