ประสิทธิผลของการปรับเกลี่ยค่าถ่วงน้ำหนักสำหรับการจ่ายเงินค่าบริการผู้ป่วยใน เขตสุขภาพที่ 1 ต่อโรงพยาบาลในจังหวัดพะเยา
คำสำคัญ:
การปรับเกลี่ยค่าถ่วงน้ำหนัก สำหรับการจ่ายเงินค่าบริการผู้ป่วยใน เขตสุขภาพที่ 1, โรงพยาบาลสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยาบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้จัดทำขึ้นเพื่อทราบผลการดำเนินการตามนโยบายการปรับเกลี่ยค่าถ่วงน้ำหนักสำหรับการจ่ายเงินค่าบริการผู้ป่วยในของเขตสุขภาพที่ 1 รวมถึงเพื่อทราบปัญหา อุปสรรค
ในการดำเนินการรับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลทั่วไปเพื่อรักษาต่อเนื่องที่โรงพยาบาลชุมชน จัดเก็บและรวบรวมข้อมูลโดยใช้เครื่องมือ 2 ส่วนได้แก่ข้อมูลเชิงปริมาณใช้แบบรวบรวมข้อมูล เพื่อทราบและเปรียบเทียบข้อมูลการให้บริการ ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้วิธีสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง เพื่อทราบปัญหา อุปสรรค ในการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว
ผลการศึกษาพบว่า
- จากข้อมูลการให้บริการในช่วงเดือนเมษายนถึงกันยายนของปีงบประมาณ 2560-2561 ในภาพรวมพบว่าผู้ป่วยในเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนและน้ำหนักสัมพัทธ์ยกเว้นโรงพยาบาลพะเยา เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่าง ในภาพรวมพบว่ามีค่าน้ำหนักสัมพัทธ์แตกต่างกัน กรณีรับกลับจากโรงพยาบาลทั่วไปเพื่อรักษาต่อที่โรงพยาบาลชุมชน โดยพบว่ามีจำนวนและน้ำหนักสัมพัทธ์เพิ่มขึ้นยกเว้นโรงพยาบาลจุน และเมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างในภาพรวมพบว่าไม่แตกต่างกัน
- ผู้ป่วยและญาติมีความพึงพอใจต่อการรักษาต่อเนื่องที่โรงพยาบาลชุมชนเนื่องจากประหยัดค่าใช้จ่ายและสะดวกในการเดินทาง ส่วนผู้บริหารและเจ้าหน้าที่พบว่ามีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยแต่จำเป็นต้องมีการปรับปรุงระบบการทำงาน เพื่อให้สัมพันธ์กับปริมาณงานและสามารถดูแลผู้ป่วยที่จะรับมารักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับปัญหาที่พบคือการส่งกลับจากโรงพยาบาลทั่วไปมีจำนวนน้อย ข้อเสนอแนะคือให้แยกเงินเดือนจากระบบจัดสรรเงินประกันสุขภาพหรือสนับสนุนงบประมาณเพื่อปรับสัดส่วนค่าแรงใกล้เคียงกับโรงพยาบาลระดับเดียวกัน รวมถึงมีนโยบายที่ชัดเจนเพื่อเพิ่มจำนวนการส่งกลับผู้ป่วยเพื่อรักษาต่อเนื่องในโรงพยาบาลชุมชน
จากผลการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการปรับเกลี่ยค่าถ่วงน้ำหนักสำหรับการจ่ายเงินค่าบริการผู้ป่วยใน เขตสุขภาพที่ 1 ทำให้ ณ สิ้นปีงบประมาณ 2561 โรงพยาบาลในจังหวัดพะเยามีเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้นและไม่มีโรงพยาบาลที่มีภาวะวิกฤตทางการเงิน ดังนั้นเขตสุขภาพที่ 1 ควรมีนโยบายให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่โรงพยาบาลที่ประสบภาวะวิกฤตทางการเงิน โดยมีความชัดเจนเชิงนโยบายและหน่วยบริการสามารถนำไปเป็นแนวทางการปฏิบัติร่วมกันได้
เอกสารอ้างอิง
2. เฉลิมพล แจ่มจันทร์. ฐานะการคลังของโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในประเทศไทย.วารสารเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ 2553; 17:93-112.
3. ปาหนัน กนกวงศ์นุวัฒน์. รูปแบบการบริหารโรงพยาบาลที่ประสบภาวะวิกฤตทางการเงิน. วารสารศูนย์การศึกษาแพทยศาสตร์คลินิก โรงพยาบาลพระปกเกล้า 2556; 106-121.
4. สำนักบริหารการจัดสรรและชดเชยค่าบริการ. คู่มือแนวทางปฏิบัติในการขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข ปีงบประมาณ 2561. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ, 2561.
5. กระทรวงสาธารณสุข. ยุทธศาสตร์ ตัวชี้วัดและแนวทางการจัดเก็บข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข ปีงบประมาณ 2561. นนทบุรี. สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข; 2561.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2019 วารสารโรคและภัยสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ประกาศเกี่ยวกับลิขสิทธิ์
|
บทความที่เผยแพร่ในวารสารโรคและภัยสุขภาพสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน |
นโยบายความเป็นส่วนตัว
|
ชื่อและที่อยู่ อีเมล์ ที่ระบุในวารสารโรคและภัยสุขภาพสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ จะใช้เพื่อระบุตามวัตถุประสงค์ของวารสารเท่านั้น และจะไม่นำไปใช้สำหรับวัตถุประสงค์อื่น หรือต่อบุคคลอื่น |


