ผลของการดำเนินงานป้องกันการบาดเจ็บจากอุบติเหตุทางถนน (D-RTI) กับการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน เขตสุขภาพที่ 3
คำสำคัญ:
การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน, แนวทางการดำเนินงานป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน, เขตสุขภาพที่ 3บทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการดำเนินงานป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน (D-RTI) เขตสุขภาพที่ 3 และศึกษาความสัมพันธ์ของผลการดำเนินงานป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนกับการบาดเจ็บ และการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน เขตสุขภาพที่ 3 กลุ่มตัวอย่าง คือ เครือข่ายระดับอำเภอ จำนวน 54 อำเภอ ดำเนินงานในระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2560 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2561 โดยใช้แบบประเมินผลการดำเนินงานป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน (D-RTI) ระดับประเทศ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ แจกแจงความถี่ หาค่าร้อยละ หาค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติไคสแควร์ (Chi-square test (χ2)) และContingency Coefficient (C)
ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีหน่วยงานสาธารณสุขอำเภอที่เป็นผู้นำทีมหลัก ผลการดำเนินงานป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนอยู่ในระดับดี (Good) ร้อยละ 66.7 รองลงมา คือ ระดับดีมาก (Excellent) ร้อยละ 27.8 และระดับดีเยี่ยม (Advanced) ร้อยละ 5.6 กลุ่มตัวอย่างที่มีผลการดำเนินงานป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนระดับดีขึ้นไปมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตลดลง จำนวน 35 อำเภอ ร้อยละ 64.81 เมื่อแยกรายกิจกรรม พบว่า กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดมีการจัดการข้อมูล เฝ้าระวัง และจัดทำสถานการณ์ปัญหามากที่สุด รองลงมา คือ มาตรการชุมชน/ด่านชุมชน ร้อยละ 96.3 และชี้เป้าจัดการจุดเสี่ยง และรณรงค์ให้ความรู้ ร้อยละ 88.9 ส่วนกิจกรรมที่มีการดำเนินงานน้อยที่สุด คือ มาตรการองค์กร ร้อยละ 59.3 รองลงมา คือ การสรุปผลการดำเนินงาน ร้อยละ 66.7 และการสอบสวนสาเหตุการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ร้อยละ 72.2 ตามลำดับ และพบว่า ผลการดำเนินงานป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนเขตสุขภาพที่ 3 ไม่มีความสัมพันธ์กับการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (χ2 = 1.409, p-value = 0.575)
จากผลการวิจัยดังกล่าว พบว่า ด้านนโยบายและกลไกการทำงานยังมีข้อจำกัด ขาดการเชื่อมโยงการจัดการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนระหว่างองค์กรในระดับอำเภอและท้องถิ่น ด้านบุคลากรควรพัฒนาทักษะการสอบสวนสาเหตุการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน การวิเคราะห์ถึงรากของปัญหาอุบัติเหตุในพื้นที่นำไปสู่การชี้เป้าอำเภอเสี่ยง การสร้างมาตรการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด และมีการสรุปประเมินติดตามมาตรการอย่างต่อเนื่อง
เอกสารอ้างอิง
สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการดำเนินงานและการประเมินการป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนระดับอำเภอ District Road Traffic Injury (D-RTI). กรุงเทพฯ : กระทรวงสาธารณสุข; 2561.
สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แผนปฏิบัติราชการเชิงยุทธศาสตร์ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2560-64) กรมควบคุมโรค. แผนงานป้องกันการบาดเจ็บจากจราจรทางถนน. กระทรวงสาธารณสุข 2561:219-227.
กองตรวจราชการ สำนักตรวจราชการ. แนวทางการตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 (Inspection Guideline) คณะที่ 1การส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค และการจัดการสุขภาพ ตัวชี้วัดตรวจราชการ:อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน. กระทรวงสาธารณสุข:115-121.
สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. ตัวชี้วัดระดับกระทรวง อัตราการเสียชีวิตจากการบาดเจ็บทางถนน [อินเทอร์เน็ต]. 2561 [เข้าถึงเมื่อ 1 ม.ค.2562]. เข้าถึงได้จาก:https:// healthpi.moph.go.th/kpi/kpi/index/?id=758&kpi_ year=2561
สำนักโรคไม่ติตต่อ กรมควบคุมโรค. ข้อมูลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนปี พ.ศ. 2561 แยกรายเขตและจังหวัดจากบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด. 2561. [รายงานไฟล์แนบตัดข้อมูล 15 ก.ย. 2561]. กระทรวงสาธารณสุข.
นภิวัฒน์ โคตรแก้ว. การพัฒนารูปแบบการป้องกันการบาดเจ็บทางถนนโดยการมีส่วนร่วมของเครือข่ายป้องกันการบาดเจ็บทางถนน อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ. วารสารโรคและภัยสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์. 2561;12:12-24.
Iamtrakul, P., & Pimonsathean, P. Impact of Urban factors on road accident in Bangkok, Thailand. Lowland Technology Interna tional, 2010;12:30-40.
Economic and Social Commission for Asia and The Pacific. Guidelines on Road Safety Action Plan and Programmes. United Nations; 1999. 1-67.
Thai Health Promption Found โครง การ วิจัยกฎหมายจราจรทางบก. ประเด็นการบังคับใช้กฎหมายและการจัดการ [อินเทอร์เน็ต], 2009 [The study of land traffic law: Enforcement and management
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2019 วารสารโรคและภัยสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ประกาศเกี่ยวกับลิขสิทธิ์
|
บทความที่เผยแพร่ในวารสารโรคและภัยสุขภาพสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน |
นโยบายความเป็นส่วนตัว
|
ชื่อและที่อยู่ อีเมล์ ที่ระบุในวารสารโรคและภัยสุขภาพสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ จะใช้เพื่อระบุตามวัตถุประสงค์ของวารสารเท่านั้น และจะไม่นำไปใช้สำหรับวัตถุประสงค์อื่น หรือต่อบุคคลอื่น |


