การพัฒนาตำรับยาเม็ดฟองฟู่เอนไซม์ชีวภาพกำจัดกลิ่นก๊าช แอมโมเนียจากการย่อยสลายอินทรียวัตถุ

Main Article Content

จิตรดี ลุประสงค์
ลักษณา เจริญใจ
กฤษณะ สถานทิพย์
นิพล มหาอุตย์
บำรุง โมกรัตน์
เชาวลิต มณฑล
ศราวุธ เพิ่มพูนคุณารักษ์

บทคัดย่อ

เอนไซม์ชีวภาพส่วนใหญ่ประกอบด้วยแบคทีเรีย 5 ชนิด คือ Pediococcus acidilactici, Streptococcus faecalis (หรือ Enterococcus faecalis). Pichia farinose, Bacillus amyloliquefaciens และ Dekkera anomala ซึ่งถูกนำมาใช้ประโยชน์ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเคมีในการย่อยสลายและกำจัดกลิ่นเหม็น มีจำหน่ายในรูปแบบน้ำและผงแห้งซึ่งมีอายุการเก็บสั้นและไม่สะดวกในการนำไปใช้ การศึกษาวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาตำรับยาเม็ดฟองฟู่จากเอนไซม์ชีวภาพ เพื่อความสะดวกในการนำไปใช้และเพิ่ม ความคงตัว การพัฒนาตำรับยาเม็ดฟองฟู่โดยเลือกชนิดและปริมาณของสารเพิ่มปริมาณและสารช่วยยึดเกาะรวมถึง สารก่อฟองฟู่ และศึกษาคุณสมบัติทางกายภาพของผงเอนไซม์และยาเม็ดฟองฟู่เอนไซม์ชีวภาพตามมาตรฐานที่กำหนดในเภสัชตำรับของประเทศสหรัฐอเมริกา และเปรียบเทียบประสิทธิภาพของเอนไซม์ชีวภาพในการลดปริมาณ ก๊าซแอมโมเนียจากการย่อยสลายอินทรียวัตถุโดยวัดปริมาณก๊าซที่เปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน การวัดปริมาณก๊าซแอมโมเนียใช้เทคนิคก๊าซโครมาโตกราฟีโดยเปรียบเทียบกับกราฟมาตรฐานของก๊าซแอมโมเนีย และใช้วิธี phenol hypochlorite method ซึ่งเป็นการวัดปริมาณก๊าซแอมโมเนียในน้ำดูดซับ วัดค่าการดูดกลืนแสงที่ความยาวคลื่น 640 นาโนเมตร ผลการศึกษาพบว่า ตำรับยาเม็ดฟองฟู่เอนไซม์ชีวภาพซึ่งประกอบด้วย เอนไซม์ชีวภาพ พีวีพี เค 90 แป้งข้าวโพด สารก่อฟองฟู่ แมกนีเซียมสเตียเรต และทาลคัม ในสัดส่วนร้อยละ 58.82, 23.18, 5, 10, 1 และ 2 ตามลำดับ มีค่าความแปรปรวนของน้ำหนักเท่ากับ 853 ± 13 มิลลิกรัม ความแข็งเท่ากับ 4.5 ± 0.5 กก. ความกร่อนเท่ากับร้อยละ 0.53 และเวลาในการแตกตัว 3.35 ± 0.11 นาที ยาเม็ดฟองฟู่เอนไซม์ชีวภาพมีความชื้นเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับเอนไซม์ชีวภาพผงแห้งเมื่อเก็บที่อุณหภูมิห้อง นอกจากนี้ยาเม็ดฟองฟู่เอนไซม์ชีวภาพ ขนาด 500 มก.สามารถลดก๊าซแอมโมเนียได้มากกว่าชุดควบคุมที่ไม่มีเอนไซม์ชีวภาพ และสามารถลดปริมาณก๊าซแอมโมเนียได้ไม่แตกต่างกับเอนไซม์ชีวภาพผงแห้งในปริมาณ 500 มก.เท่ากัน นอกจากนี้ยาเม็ดฟองฟู่เอนไซม์ชีวภาพ ขนาด 500, 1000 และ 1500 มิลลิกรัม มีประสิทธิภาพในการลดปริมาณก๊าซแอมโมเนียได้ (ร้อยละ 93.8, 93.8 และ 97.8) ตามลำดับ ในวันแรกหลังจากที่เติมเอนไซม์

Article Details

ประเภทบทความ
เภสัชศาสตร์

เอกสารอ้างอิง

Anon. Physical tests and Determinations 2002. The United States Pharmacopoeia. 24th ed., pp.1832

Harwood, J.E. and Kühn, A.L. 1970. A colorimetric method for ammonia in natural waters. Water Research. 4(12): 805-811.

Koe, L.C.C. and Ang, F.G. 1992. Bioaugmentation of anaerobic digestion with a biocatalytic addition: The bacterial nature of the biocatalytic addition. Water Research. 26: 389-392.

Rowe, R.C., Sheskey, P.J. and Weller, P.J. 2003. Handbook of Pharmaceutical Excipients (4th Ed.): pp 73

Strickland, J.D.H and Parsons, T.R. 1972. A Practical Handbook of Seawaters Analysis. Fishery Research Board. Canada. 310.