พฤติกรรมการสูบบุหรี่และทัศนคติต่อการเลิกบุหรี่ของบุคลากรทางการศึกษา เขตตรวจราชการสาธารณสุขที่ 14

Main Article Content

จุฑาทิพย์ แซ่จึง
น้องเล็ก คุณวราดิศัย
ปรีชา บุญจูง

บทคัดย่อ

การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวาง (Cross-sectional survey study) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาพฤติกรรมการสูบบุหรี่และทัศนคติต่อโทษของบุหรี่และต่อการเลิกบุหรี่ของบุคลากรทางการศึกษาเพศชายเขตตรวจราชการสาธารณสุขที่ 14 (จังหวัดศรีสะเกษ อุบลราชธานี ยโสธร และอำนาจเจริญ) จำนวน 781 คน ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ร้อยละ 21.8 ระดับทัศนคติต่อโทษของการสูบบุหรี่โดยรวม อยู่ในระดับดี คิดเป็นคะแนนเฉลี่ย 4.19+0.57 (คะแนนเต็ม 5) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีระดับ ทัศนคติสูงสุด คือ ด้านผลกระทบต่อเศรษฐกิจ รองลงมา คือ ด้านผลกระทบต่อสังคม ผลกระทบต่อการทำงาน และผลกระทบต่อสุขภาพ ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบระดับทัศนคติต่อโทษของการสูบบุหรี่ตามพฤติกรรมการสูบบุหรี่ พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ไม่สูบบุหรี่มีระดับทัศนคติสูงกว่ากลุ่มตัวอย่างที่สูบบุหรี่อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value< 0.001) ผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการสูบบุหรี่กับปัจจัยลักษณะประชากรด้านต่างๆ พบว่า ปัจจัย สถานภาพสมรส เศรษฐกิจในครอบครัว ชีวิตครอบครัว ความเครียด การดื่มสุรา และสมาชิกรอบตัวที่สูบบุหรี่ มีความ สัมพันธ์กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.05) ในกลุ่มตัวอย่างที่ปัจจุบันยังคงมี พฤติกรรมสูบบุหรี่ พบว่ามีภาวะเสพติดทางจิตใจและมีระดับการติดบุหรี่อยู่ในระดับติดบุหรี่น้อย คิดเป็นร้อยละ 41.2 และ 63.6 ตามลำดับ โดยทัศนคติต่อการเลิกบุหรี่โดยภาพรวมอยู่ในระดับดี (คะแนนเฉลี่ย 4.01 + 0.57) และพบว่า ด้านที่มีค่าคะแนนสูงสุด คือ ด้านผลกระทบต่อเศรษฐกิจ รองลงมา คือ ด้านสุขภาพ ด้านการทำงาน และผลกระทบ ต่อสังคม ตามลำดับ

Article Details

ประเภทบทความ
เภสัชกรรมปฏิบัติ (Pharmaceutical Practice)

เอกสารอ้างอิง

Henningfield JE, Slade J. 1998. “Tobacco-dependence medications: public health and regulatory issue” Food Drug and Law Journal. 53, suppl: 75-114.