ผลการคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงโดยเภสัชกร ในร้านยาคุณภาพ จังหวัดมหาสารคาม
Main Article Content
บทคัดย่อ
โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิต อันดับสองของประเทศไทยในปัจจุบัน และมีแนวโน้มสูงเพิ่มขึ้นทุกปี ผู้ที่มีระดับน้ำตาลและระดับความดันโลหิตอยู่ในระดับเสี่ยง เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ค้นหา อัตราของผู้มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงในร้านยา เขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม 2) จำนวนผู้ที่สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือด และ/หรือ ความดันโลหิตลงมาในช่วงปกติได้ หลังจากการให้คำแนะนำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ และ 3) ความพึงพอใจต่อการบริการคัดกรองโรคโดยเภสัชกรในร้านยา ประชากรที่ศึกษาคือผู้ที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 35 ปี ที่ไม่เคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานและ/หรือความดันโลหิตสูง ที่มารับบริการคัดกรองในร้านยาคุณภาพจำนวน 2 แห่ง ร่วมกับการออกเยี่ยมบ้านในชุมชนและประชาสัมพันธ์ให้มา ร่วมบริการคัดกรองที่ร้านยา ระหว่างเดือนกันยายน 2551 ถึง มีนาคม 2552 มีผู้เข้าร่วมคัดกรองทั้งหมด 333 ราย ผลการคัดกรองพบว่ามีผู้ที่ไม่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงทั้งหมด 136ราย (ร้อยละ40.8) เป็น ผู้เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน จำนวน 53 ราย (ร้อยละ 16.3; 95%CI: 12.0-19.9) เป็นผู้เสี่ยงต่อความดันโลหิตสูงจำนวน 96 ราย (ร้อยละ 32.2; 95%CI: 26.7 - 37.3) และเป็นผู้เสี่ยงต่อทั้งเบาหวานและความดันโลหิตสูง 48 ราย (ร้อยละ 16.3; 95%CI: 11.8 - 20.2) ผลการส่งต่อพบว่ามีผู้ป่วยรายใหม่จำนวนทั้งสิ้น 9 ราย (ร้อยละ 2.7 จาก 333 คน ที่มารับบริการที่ร้านยา) โดยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน 1 ราย (ร้อยละ 1.0) เป็นโรคความดันโลหิตสูง 4 ราย (ร้อยละ 4.9) เป็นเบาหวานและความดันโลหิตสูง 1 ราย (ร้อยละ 1.3) และได้รับการวินิจฉัยโรคอื่น เช่น ไขมันใน เลือดสูง ไตวาย จำนวน 3 ราย หลังจากการให้คำแนะนำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในผู้เสี่ยง 45 ราย พบว่ามี ผู้ที่ระดับน้ำตาลและ/หรือความดันโลหิตลดลงมาในระดับปกติ 15 ราย (ร้อยละ 33.3) และร้อยละ 62.5 ของผู้รับบริการมีความพึงพอใจมากที่สุดต่อความเป็นกันเองของเภสัชกรที่ให้บริการ และร้อยละ 51.9 พึงพอใจต่อบริการใน ภาพรวมมากที่สุด ผลการศึกษาสรุปได้ว่า การที่ร้านยาค้นหาผู้ที่มีความเสี่ยงและส่งต่อ ทำให้พบผู้ป่วยรายใหม่ร้อยละ 2.7 และการให้คำแนะนำในการปรับพฤติกรรมและการติดตามโดยเภสัชกรในร้านยา ช่วยให้ผู้ที่มีความเสี่ยงมีระดับน้ำตาลและ/หรือระดับความดันโลหิตกลับสู่ระดับปกติได้ร้อยละ 33.3 โดยส่วนใหญ่ผู้มารับบริการมีความพึงพอใจมากต่อบริการคัดกรองที่ร้านยาคุณภาพ นอกจากนี้ยังได้มีการส่งต่อผู้ที่มีความเลี่ยงไปยังหน่วยปฐมภูมิเพื่อเข้าสู่ระบบประกันสุขภาพ ทำให้ผู้ที่มีความเสี่ยงและผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม รวมทั้งการติดตามให้คำแนะนำ โดยเภสัชกรในร้านยายังมีส่วนช่วยให้จำนวนผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีแนวโน้มที่ลดลงได้
Article Details
กรณีที่ใช้บางส่วนจากผลงานของผู้อื่น ผู้นิพนธ์ต้อง ยืนยันว่าได้รับการอนุญาต (permission) ให้ใช้ผลงานบางส่วนจากผู้นิพนธ์ต้นฉบับ (Original author) เรียบร้อยแล้ว และต้องแนบเอกสารหลักฐาน ว่าได้รับการอนุญาต (permission) ประกอบมาด้วย
เอกสารอ้างอิง
Aekplakorn W, Abbott-Klafter J, Premkamone A, Dhanamun B, Chaikittiporn C, Chongsuvivatwong V, et al. Prevalence and management of diabetes and associated risk factors by regions of Thailand, the national health examination servey 2004. Diabetes Care 2007; 30:2007-2012.
Allen P, Thompson JL, Herman CJ, Qualls C, Helitzer DL, Whyte AN, et al. Impact of periodic follow-up testing among urban American Indian woman with impaired fasting glucose[online]. 2008 July [cited 2009 October 22]. Available from http://www.cdc.gov/pcd/issues//jul/020087_0078.htm.
American Diabetes Association. Diagnosis and classification of diabetes mellitus. Diabetes care2008; 31 Suppl 1: s55-s60.
Christensen DB, Farris KB. Pharmaceutical care in community pharmacies: practice and research in the US. Ann Pharco 2006; 40: 1400-6.
Noyce PR. Providing patient care through community pharmacies in the UK: policy, practice, and research. Ann Pharco 2007; 41: 861-8.
Pongwecharak J, Treeranurat T. Screening for pre-hypertension and elevated cardiovascular risk factors in a Thai community pharmacy. Pharm World Sci 2010; 32: 329-33.
Seventh Report of the Joint National Committee on Prevention, Detection, Evaluation and Treatment of High Blood Pressure (JNC 7). JAMA 2003; 289: 2560-71.
Sookaneknun P, Saramunee K, Rattarom R, KongsriS, Senanok R, Pinitkit P, et al. Economic analysis of the diabetes and hypertension screening collaboration between community pharmacies and a Thai government primary care unit. Primary care diabetes 2010;4(3):155-64.
Tabaei BP, Herman WH. A multivariate logistic regression equation to screen for diabetes: development and validation. Diabetes care2005; 25: 1999-2003.
Wild S, Roglic G, Green A, Sicree R, King H. Global Prevalence of Diabetes. Diabetes Care 2004;27(5): 1047-53.