การประเมินประสิทธิภาพโปรแกรมช่วยสอนเรื่องความรู้เบื้องต้นในการช่วยเลิกบุหรี่ และเภสัชบำบัดขั้นพี้นฐาน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยแบบทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้เบื้องต้นและเภสัชบำบัดขั้นพื้นฐานในการช่วยเลิกบุหรี่ ของนักศึกษาเภสัชศาสตร์ก่อนและหลังการให้ความรู้โดยการใช่โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเปรียบเทียบกับการ เรียนในชั้นเรียนแบบปกติ กลุ่มตัวอย่างคือนักศึกษาเภสัชศาสตร์ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จำนวน 93 คน แบ่งเป็นการควบคุมโดยการสุ่ม 46 คน ใช้การสอนโดยอาจารย์ในชั้นเรียน และกลุ่มทดลอง 47 คน ใช้โปรแกรม คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เก็บข้อมูลในเดือนกรกฎาคม 2552
ผลการศึกษาพบว่าคะแนนความรู้ก่อนเรียนระหว่าง 2 กลุ่มไม่มีความแตกต่างกัน ส่วนความรู้หลังเข้าเรียนพบ ว่าคะแนนของกลุ่มที่สอนในชั้นเรียนโดยอาจารย์สูงกว่ากลุ่มที่ใช้โปรแกรมช่วยสอนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (1 8.0 + 2.3 VS 16.6 +2.7; P = 0.007) เช่นเดียวกับผลค่าคะแนนความรู้หลังเรียน 2 สัปดาห์ ซึ่งพบว่าคะแนนความรู้ของกลุ่ม ควบคุมสูงกว่ากลุ่มทดลองอย่างมีนัยสำคัญ (18.2 + 3.0 VS 15.9+3.5; P = 0.003) อย่างไรก็ตามพบว่า คะแนน ความรู้หลังใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนอยู่ในระดับสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (16.64:2.7 VS 13.2+3.2; P <0.001) สำหรับคะแนนสอบหลังเรียนทันทีกับหลังเรียน 2 สัปดาห์ภายในกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง ไม่มีความแตกต่างกัน นอกจากนี้พบว่ากลุ่มทดลองที่ใช่โปรแกรมช่วยสอน มีความพึงพอใจต่อโปรแกรมในระดับมาก คิดเป็นคะแนนเฉลี่ย 4.07 (คะแนนเต็ม 5) และเห็นว่าตนเองมีระดับความรู้เกี่ยวกับการเลิกบุหรี่เพิ่มขึ้น ในทุกด้านที่ประเมิน
Article Details
กรณีที่ใช้บางส่วนจากผลงานของผู้อื่น ผู้นิพนธ์ต้อง ยืนยันว่าได้รับการอนุญาต (permission) ให้ใช้ผลงานบางส่วนจากผู้นิพนธ์ต้นฉบับ (Original author) เรียบร้อยแล้ว และต้องแนบเอกสารหลักฐาน ว่าได้รับการอนุญาต (permission) ประกอบมาด้วย
เอกสารอ้างอิง
Burns N, Grove SK. Understanding nursing research.2nd ed. Philadelphia. W.B. Saunder, 1999.
Patton MQ. Qualitative Research and EvaluationMethods. 3rd ed. California: Sage Publications,2002.
Spector PE. Summated rating scale construction: anintroduction. Sage Univ Papers Series No 82:Qualitative Application in the Social Sciences.California. Sage Publications, 1992.