ยาเหลือในครอบครองของผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ในโรงพยาบาลชุมชน
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทนำ: การมียาเหลือในครอบครองเกินความจำเป็น เป็นปัญหาที่สำคัญของระบบสาธารณสุข จาก “โครงการ ไข่ใหม่แลกยาเก่า" ของกระทรวงสาธารณสุขปี 2555 และอีกหลายการศึกษา สะท้อนว่ากลุ่มยาที่เหลือส่วนใหญ่เป็นยาโรคเรื้อรัง และมีสาเหตุจากพฤติกรรมการใช้ยาของผู้ป่วยในขณะที่มีการศึกษาปัญหาการมียาเหลือในครอบครองอันมีสาเหตุจากการจ่ายยาเกินจำเป็นไม่มากนัก การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาขนาดและมูลค่ายา รวมถึงปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการมียาเหลือในครอบครองของผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ในโรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่ง วิธีดำเนินการวิจัย: เก็บข้อมูลย้อนหลังจากเวชระเบียนผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่รับบริการที่คลินิกโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของโรงพยาบาล ในช่วง 1 เมษายน-30 กันยายน 2557 จำนวน 2,918 คน วิเคราะห์ขนาดและมูลค่ายา จากอัตราการครอบครองยา (Medication possession ratio; MPR) และวิเคราะห์ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการมียาเหลือ ใช้โดยใช้สถิติ Chi-square และ Spearman's correlation coefficeint ผลการวิจัย: พบผู้ป่วยมียาเหลือในครอบครองร้อยละ 74.61 ผู้ป่วยร้อยละ 41.60 มีอัตราการครอบครองยาที่ 1.05-1.10 มูลค่ายาเหลือในครอบครอง 91,200.46 บาท ปัจจัยที่ ส่งผลต่อการมียาเหลือในครอบครอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ได้แก่ อายุ จำนวนโรคเรื้อรัง และจำนวน รายการยาเรื้อรัง สรุปผลการวิจัย: แม้ว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมียาเหลือในครอบครอง แต่มีปริมาณยาเหลือในครอบครอง ไม่มากนัก (ประมาณ 5 สัปดาห์ต่อปี) อีกทั้งการศึกษานี้สะท้อนถึงการจ่ายยามากกว่าที่ผู้ป่วยต้องใช้จริงเท่านั้น ดังนั้น การแก้ปัญหาควรมีการศึกษาสาเหตุของการมียาเหลือในครอบครองอันเกิดจากพฤติกรรมการใช้ยาของผู้ป่วยซึ่งมีหลากหลายช่องทาง อาทิ การรณรงค์ให้ผู้ป่วยนำยามาโรงพยาบาลทุกครั้ง, การให้คำปรึกษาด้านยา และระบบการเติมยา เป็นต้น
Article Details
กรณีที่ใช้บางส่วนจากผลงานของผู้อื่น ผู้นิพนธ์ต้อง ยืนยันว่าได้รับการอนุญาต (permission) ให้ใช้ผลงานบางส่วนจากผู้นิพนธ์ต้นฉบับ (Original author) เรียบร้อยแล้ว และต้องแนบเอกสารหลักฐาน ว่าได้รับการอนุญาต (permission) ประกอบมาด้วย
เอกสารอ้างอิง
Sirilak S, Ekachampaka P, Wattanamano N. Thailand Health Profile Report 2008-2010. Bureau of Policy and Strategy, Ministry of Public Health 2011; 153-155, 285.
Kessomboon N, Sukulbumrungsil R, Kanchanapiboon I, et al. Research and Systems Development for National Drug Account. Nonthaburi: Food and Drug Administration National Drug Account; 2012. 8-9.
Suwannaprom P, Niamhun N, Champoonot P et al. Items and value of household leftover medicines for chronic conditions at Sansai-Luang Sub-district, Sansai District, Chiang Mai Province. TPHSJ2012; 7(1): 22-28.
Pooviboonsuk P, editor. The threat of leftover medicines. TMJ 2010; 11(144): 12-14.
Champunot P. Leftover medicines and medicine use behavior of people in Chiang Mai Province. [Master of Pharmacy (Pharmacy Management)]. Chiang Mai: Chiang Mai University; 2010.
Health News. ‘Eggs in exchange for drugs’ has claimed 36 million tablets ‘Diabetes o Pressure - fat’ most. Thai Rath. [serial online]. 2012 Jul 10 [cited 2013 Sep 3] Available from: http://www.thairath.co.th/content/274726.
Jeanpeerapong N. et al., The estimate economic loss of leftover medicine in patients with chronic diseases. [Online]. 2008 Jul 3 [cited 2013 Sep 21]; Available from: http://kb.hsri.or.th/dspace/handle/11228/2213
Chaiyakunapruk N, Nimpitakpong P, Dilokthornsakul P, et al. The size and fiscal impact of medication over possession, solving problem by policy. Phitsanulok: Center of Pharmaceutical Outcomes Research (CPOR) Faculty of Pharmaceutical Sciences Naresuan University; 2012.
Thavornwattanayong W, Geesittisomboon W, Jansuriyakul W, et al. Survey of leftover drugs and drug use behavior among patients with chronic diseases in Nong Pak Long, Mueang Nakhon Pathom. JHS 2012; 21(6): 1140-8.