การศึกษาสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพของเปลือกผลลังแขเพื่อใชัประโยชน์ ทางผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ

Main Article Content

จารุวรรณ ประดับแสง
ซูรายา ดีมะ
พงษ์พันธ์ สุขสุพันธ์
สุพัฒน์ ศรีสวัสดิ์

บทคัดย่อ

บทนำ: ต้นลังแข (Baccaurea macrocarpa (Miq.) Mull. Arg) จัดอยู่ในวงศ์ Euphobiaceae เป็น ผลไม้เฉพาะถิ่นของภาคใต้มีรสชาติดี ลังแขสามารถให้ผลผลิตไม่น้อยกว่า 300-500 กิโลกรัมต่อต้น ทำให้มีแนวโน้มที่จะมีเศษวัสดุเหลือทิ้ง เช่น เปลือกผลลังแขเพิ่มมากขึ้น งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหา สารพฤกษเคมีเบื้องต้น ศึกษาหาปริมาณสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ และศึกษาหาฤทธิ์ด้านอนุมูลอิสระของเปลือกผลลังแข เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากเปลือกผลลังแข วิธีดำเนินการวิจัย: ทำการสกัดเปลือกผลลังแขด้วยน้ำ เอทานอล และเมทานอล ตรวจสอบสารทางพฤกษเคมีเบื้องต้น หาปริมาณ ฟีนอลิคทั้งหมด ปริมาณฟลาโวนอยด์ทั้งหมด และปริมาณแทนนินทั้งหมด และทำการศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี DPPH, ABTS และ FRAP ผลการวิจัย: ค่าร้อยละผลผลิตของสารสกัดจากเปลือกผลลังแขด้วย 95% เมทานอลมีค่ามากที่สุด (12.33 %) จากการทดสอบหาปริมาณสารฟลาโวนอยด์ทั้งหมด พบว่าสารสกัดจากเปลือกลังแขด้วย 95%เอทานอสมีค่ามากที่สุด (0.14±0.05 mg GAE/g sample) ทดสอบปริมาณแทนนินทั้งหมด พบว่าปริมาณสารคอนเดนส์แทนนินทั้งหมดของสารสกัดหยาบจากเปลือก ลังแขด้วย 50%เอทานอลมีค่ามากที่สุด (0.54±0.07 mg GAE/g sample) และปริมาณสารไฮโดรไลซ์แทนนินของ สารสกัดหยาบจากเปลือกผลลังแขด้วย 95%เมทานอล มีค่ามากที่สุด (0.60±0.02 mg GAE/g sample) และ พบว่าปริมาณสารฟีนอลิคของสารสกัดหยาบจากเปลือกลังแขด้วย 95%เมทานอล มีค่ามากที่สุด (2.13+0.21 mg GAE/g sample) การศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระทั้ง 3 วิธี พบว่าสารสกัดหยาบด้วย 95% เมทานอล ให้ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด สรุปผลการวิจัย: จากการศึกษานี้พบว่า สารสกัดจากเปลือกผลลังแขสามารถนำมา ประยุกต์ใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดการใช้สารเคมีและเพิ่ม มูลค่าสมุนไพรพื้นบ้านอีกทางหนึ่ง

Article Details

ประเภทบทความ
เภสัชศาสตร์ (Pharmaceutical Sciences)

เอกสารอ้างอิง

Hou WC. Lin RD. Cheng KT. Hung YT. Chou C. H. Chen, et al., Free radical scavenging activity of Taiwanese native plant. Journal of Phytomedicine 2003; 10(2-3): 170.

Mohd FAB, Nor EA, Fifilaya AK, Syazlina S. Phytochemicals and Antioxidative Properties of Borneo Indigenous Liposu (Baccaurea lanceolata) and Tampoi Baccaurea macrocarpa) Fruits. Antioxidants 2014; 3: 516-525.

Re R. Pellegrini N. Proteggente A. Pannala A. Yang M. Rice-Evans C. Antioxidant activity applying an improve ABTS radical cationdecolorization assay. Free Radical Biology and Medicine 1999; 26: 1231-1237.

Rimjhim S, Kumari N, Jainendra K. Preliminary Phytochemicals Screening of Methanolic Extract of Clerodendron infortunatum. Journal of Applied Chemistry 2014; 7(1): 10-13.

Ronald L.P. Xianli W. Karen S. Standardized Methods for the Determination of Anitioxidant Capacity and Phenolics in Food and Dietary Supplements. Journal of agricultural and food chemistry 2005; 53: 4290-4305.

Schlesier K. Harwat M. Bohm V. Bitsch R. Assesment of antioxidant activity by using different in vitro methods. Journal of Society for Free Radical Research 2002; 36(2): 177-187.