การสำรวจ ความรู้และการปฏิบัติตัวในการใช้ยารักษาตนเองของนิสิตชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

Main Article Content

ปริญดา ไอศูรย์พิศาลกุล
ฉัตรวดี กฤษณพันธุ์

บทคัดย่อ

บทนำ: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับของความรู้ และการปฏิบัติตัวในการใช้ยารักษาตนเองของนิสิตชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิธีดำเนินการวิจัย: ประชากรคือนิสิตระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2555 จำนวน 4,495 คน จาก 17 คณะวิชา โดยการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม การสำรวจเป็นแบบภาคตัดขวาง โดยให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถามด้วยตนเอง แบบสอบถามประกอบด้วยแบบประเมินความรู้จำนวน 20 ข้อและประเมินการปฏิบัติตัวจำนวน 11 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการทดสอบค่า t (t-test) ผลการศึกษาวิจัย: จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,517 คน มีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 1,162 คน (76.6%) กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ศึกษาในสาขาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์สุขภาพ 788 (67.8%) คน โดยโรคหรืออาการที่ใช้ยารักษาตนเองมากที่สุด ได้แก่ ปวดศีรษะ (40.0%) เป็นไข้ (27.1%) เป็นหวัด (19.4%)  สำหรับความรู้เกี่ยวกับการใช้ยา พบว่า ข้อคำถามที่กลุ่มตัวอย่างตอบถูกน้อยที่สุด ได้แก่ “การที่แพทย์สั่งจ่ายยาลดกรดร่วมกับยาประเภทอื่น ๆ จะช่วยลดอาการแสบร้อนในช่องท้องได้ (ร้อยละ 13.0)” บทนำ: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับของความรู้ และการปฏิบัติตัวในการใช้ยารักษาตนเองของนิสิตชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิธีดำเนินการวิจัย: ประชากรคือนิสิตระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2555 จำนวน 4,495 คน จาก 17 คณะวิชา โดยการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม การสำรวจเป็นแบบภาคตัดขวาง โดยให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถามด้วยตนเอง แบบสอบถามประกอบด้วยแบบประเมินความรู้จำนวน 20 ข้อและประเมินการปฏิบัติตัวจำนวน 11 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการทดสอบค่า t (t-test) ผลการศึกษาวิจัย: จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,517 คน มีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 1,162 คน (76.6%) กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ศึกษาในสาขาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์สุขภาพ 788 (67.8%) คน โดยโรคหรืออาการที่ใช้ยารักษาตนเองมากที่สุด ได้แก่ ปวดศีรษะ (40.0%) เป็นไข้ (27.1%) เป็นหวัด (19.4%)  สำหรับความรู้เกี่ยวกับการใช้ยา พบว่า ข้อคำถามที่กลุ่มตัวอย่างตอบถูกน้อยที่สุด ได้แก่ “การที่แพทย์สั่งจ่ายยาลดกรดร่วมกับยาประเภทอื่น ๆ จะช่วยลดอาการแสบร้อนในช่องท้องได้ (ร้อยละ 13.0)” “การเก็บรักษายารูปแบบขี้ผึ้ง หรือเจลในตู้เย็นจะช่วยยืดวันหมดอายุของยาได้ (ร้อยละ 23.5)” สำหรับการปฏิบัติตัวในการใช้ยารักษาตนเอง พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่เรียนในสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ มีการปฏิบัติตัวในใช้ยารักษาตนเองอย่างสมเหตุสมผลดีกว่านิสิตสาขาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์สุขภาพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สรุปผล: ผลการศึกษาครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัย ในการใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการจัดการเรียนการสอนระดับปริญญาตรี เพื่อให้บัณฑิตที่จบการศึกษามีความรู้พื้นฐานที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้ยาต่อไป

Article Details

ประเภทบทความ
เภสัชกรรมปฏิบัติ (Pharmaceutical Practice)

เอกสารอ้างอิง

Hsiao F, Lee J, Huang W, Chen S, Chen H. Survey of medication knowledge and behaviors among college students in Taiwan. Am J Pharm Educ 2006; 70(2): 1-7.

Hughes CM, McElnay JC, Fleming GF. Benefits and risks of self-medication. Drug Saf 2001; 24:1027-1038.

Isacson D, Bingefors K. Attitudes towards drugs a survey in the general population. Pharm World Sci 2002; 24(3):104-10.

James H. et.al. Evaluation of knowledge attitude and practice of self-medication among First Year medical students. Med Princ Pract 2006; 15: 270-275.

Keeratipaiboon C., Santiyanon N., Study of Knowl¬edge and understand of laxative use from customers in Osothsala drug store. Thai Pharm Health Sci J 2008; 3(1):30-36.

Kessomboon N. et al, Research and Systems Devel¬opment for National Drug Account[Online]. 2012 June[cited 2013 Jan 19]. Available from: http://ihppthaigov.net/publication/attachresearch/300/chapter1.pdf

Sawalha AF. A descriptive study of self-medication practices among Palestinian medical and nonmedical university students. Res Social Adm Pharm 2008; 4:164-72.

Sirirassame B. Antibiotics use behavior of people in Nakornpathom Province. Nakornpathom: Institute for population and social research, Mahidol University Press; 1997. Contract No.:207. Sponsored by the Institute for population and social research.

Suleman S, Ketsela A, Mekonnen Z. Assessment of self-medication practice in Assendabo town, Jimma zone, southwestern Ethiopia. Res Social Adm Pharm 2009; 5: 76-81.

Suwan T. Self-medication Behavior of students at Ramkhamhaeng University. Master Thesis Degree Master of Education Program in Health Education, Faculty of Education, Ramkhamhaeng University; 2006

Tantian P. Self-medication behavior of Thai people. J Hematol Transfus Med [serial online] 2009 Oct-Dec [ cited 2013 Jan 19];19(4):[8 screens]. Available from: https://tci-thaijo.org/index.php/JHematolTransfusMed/arti-cle/view/4425/3865