การพัฒนาระบบงานบริการติดตามวัดระดับยาในเลือดของโรงพยาบาลศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษานี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาแบบไปข้างหน้า เพื่อพัฒนาระบบงานบริการตรวจติดตามวัดระดับยาในเลือด ณ โรงพยาบาลศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ เก็บข้อมูลโดยการใช้แบบสอบถามปัญหาที่พบในงานบริการตรวจติดตามวัดระดับยาในเลือดจากทีมสหสาขาวิชาชีพ ได้แก่แพทย์ เภสัชกร พยาบาลและนักเทคนิคการแพทย์ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานบริการตรวจติดตามวัดระดับยาในเลือด จากนั้นจัดทำเครื่องมือเพื่อใช้ในการพัฒนาระบบงานและทดลองใช้งาน แล้วทำการวัดความพึงพอใจของทีมสหสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินประสิทธิภาพของระบบงาน ปัญหาที่พบโดยส่วนใหญ่ คือ บุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องยังไม่ทราบถึงขั้นตอนในการดำเนินงานและกระบวนการดำเนินงานยังมีความล่าช้า หลังจากเมื่อทำการประเมินความพึงพอใจหลังจากทดลองใช้เครื่องมือที่พัฒนาขึ้นพบว่า บุคลากรทางการแพทย์โดยส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อขั้นตอนการดำเนินงานที่รวดเร็วและไม่ซับซ้อน ผู้ปฏิบัติงานสามารถเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อส่งตรวจได้อย่างถูกต้อง เอกสารประกอบการดำเนินงานใช้งานได้ง่ายไม่ซับซ้อน ทำให้สะดวกในการดำเนินงาน มีการติดต่อประสานงานระหว่างทีมสหสาขาวิชาชีพเป็นอย่างดีและบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในภาพรวมของระบบงานบริการตรวจติดตามวัดระดับยาในเลือด จากผลการศึกษาสรุปได้ว่า การพัฒนาระบบงานบริการตรวจติดตามวัดระดับยาในเลือด ณ โรงพยาบาลศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประสบความสำเร็จในการพัฒนาระบบงาน และบุคลากรที่เกี่ยวข้องมีความพึงพอใจในระดับสูง แต่อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลศูนย์หัวใจสิริกิติ์ยังขาดการจัดตั้งหน่วยงานบริการตรวจติดตามวัดระดับยาในเลือดที่เป็นรูปธรรม ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้เกิดการพัฒนาระบบงานที่สมบูรณ์
Article Details
กรณีที่ใช้บางส่วนจากผลงานของผู้อื่น ผู้นิพนธ์ต้อง ยืนยันว่าได้รับการอนุญาต (permission) ให้ใช้ผลงานบางส่วนจากผู้นิพนธ์ต้นฉบับ (Original author) เรียบร้อยแล้ว และต้องแนบเอกสารหลักฐาน ว่าได้รับการอนุญาต (permission) ประกอบมาด้วย
เอกสารอ้างอิง
Gross AS. Best practice in therapeutic drug monitoring. Br J Clin Pharmacol. 2001; 52: 5S –10S.
Pippenger CE. Therapeutic drug monitoring assay development to improve efficacy and safety. Rev Epi Res. 2006; 68: 60-63.