ผลการรักษาและมูลค่าการรักษาจากการใช้แนวทางการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผลในร้านยามหาวิทยาลัยมหาสารคาม

Main Article Content

รัชนันท์ อุรุเอกโอฬาร
วชิราภรณ์ พลเสนา
ศิวารัตน์ ทองแดง
พีรยา สมสะอาด
สุรศักดิ์ ไชยสงค์
ธีระพงษ์ ศรีศิลป์

บทคัดย่อ

บทนำ การใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่สมเหตุผลนำมาซึ่งปัญหาเชื้อดื้อยา ในปัจจุบันหลักการจ่ายยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผลเป็นแนวทางในการส่งเสริมให้เกิดการใช้ยาปฏิชีวนะที่สมเหตุผลมากขึ้นและลดปัญหาเชื้อดื้อยาได้ วัตถุประสงค์ เพื่อประเมินผลทางคลินิกและมูลค่าการรักษาของผู้ป่วยโรคคอหอยอักเสบและโรคท้องเสียตามแนวทางการจ่ายยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผล หรือ Antibiotics Smart Use (ASU) ที่ร้านยามหาวิทยาลัย คณะเภสัชศาสตร์มหาสารคามจำนวน 3 สาขา วิธีการ รูปแบบการศึกษาเป็นเชิงพรรณนา กลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยโรคคอหอยอักเสบที่มารับบริการด้วยอาการเจ็บคอและผู้ป่วยโรคท้องเสียที่มารับบริการที่ร้านยามหาวิทยาลัย ในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2555 โดยผู้ป่วยโรคคอหอยอักเสบจะได้รับการประเมินและจัดกลุ่มตาม McIsaac score สำหรับผู้ป่วยโรคท้องเสียจะได้รับการประเมินอาการและแบ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับและไม่ได้รับยาปฏิชีวนะ จากนั้นติดตามหลังการรักษา 5 และ 3 วัน สำหรับโรคคอหอยอักเสบและท้องเสีย ตามลำดับ ผลการศึกษา ผู้ป่วยโรคคอหอยอักเสบส่วนใหญ่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม0-1 คะแนน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับยาปฏิชีวนะคิดเป็นร้อยละ 58.3, กลุ่ม 2-3 คะแนนที่ได้รับและไม่ได้รับยาปฏิชีวนะและกลุ่มที่ได้ ≥4 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 10.2, 29.1 และ 2.4 ตามลำดับ ผู้ป่วยโรคท้องเสียส่วนใหญ่จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ไม่ได้รับยาปฏิชีวนะคิดเป็นร้อยละ 85.7 ผลการรักษาพบว่า ผู้ป่วยโรคคอหอยอักเสบส่วนใหญ่มีอาการหายเป็นปกติคิดเป็นร้อยละ 71.7 โดยกลุ่ม 0-1 คะแนน, กลุ่ม 2-3 คะแนนที่ได้รับและไม่ได้รับยาปฏิชีวนะ และกลุ่ม ≥4 คะแนน มีอาการหายเป็นปกติคิดเป็นร้อยละ 75.7, 69.2, 64.9 และ 66.7 ตามลำดับ ส่วนผู้ป่วยโรคท้องเสียส่วนใหญ่มีอาการหายเป็นปกติคิดเป็นร้อยละ 95.2 สำหรับมูลค่าการรักษาของผู้ป่วย พบว่าผู้ป่วยโรคคอหอยอักเสบในกลุ่ม 2-3 คะแนนที่ได้รับยาปฏิชีวนะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนมากที่สุด และกลุ่ม 2-3 คะแนนที่ไม่ได้รับยาปฏิชีวนะมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด โดยผู้ป่วยกลุ่ม 2-3 คะแนนที่ได้รับยาปฏิชีวนะมีค่าใช้จ่ายต่อคนมากกว่ากลุ่ม ≥4 คะแนน สำหรับผู้ป่วยโรคท้องเสียในกลุ่มที่ได้รับยาปฏิชีวนะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ยาปฏิชีวนะ เมื่อประเมินความพึงพอใจพบว่า โดยรวมแล้วผู้ป่วยมีความพึงพอใจอยู่ในระดับพอใจถึงพอใจมาก สรุปผล ผลการศึกษาดังกล่าวสอดคล้องกับผลการศึกษาของแนวทางการจ่ายยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผลตามหลักการของ ASU ในโรงพยาบาล ดังนั้นการนำแนวทางของ ASU มาประยุกต์ใช้ในร้านยาจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสมและมีผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ

Article Details

ประเภทบทความ
เภสัชกรรมปฏิบัติ (Pharmaceutical Practice)

เอกสารอ้างอิง

Apisarnthanarak A, Danchaivijitr S, Khawcharoenporn T, Limsrivilai J, Warachan B, Bailey TC, et al., Effectiveness of Education and an antibiotic-control program in a tertiary care hospital in thailand [Internet]. 2006 [cited 2012 Aug 23]. Available from: http://cid.oxfordjournals.org/

Bureau of drug control, Food and Drug Administration and Faculty of Pharmacy, Srinakharinwirot University. Outcomes of the antibiotics smart use project : a pilot study in Saraburi province; 2008.

Community Pharmacy Association (Thailand). Antibiotic smart use in drug store. All about infection conference 2012; 2012 August 19; Bangkok: Thailand; 2012.

Krittathanmakul S, Sukphet P, Wongprajan P, Makchai P, Jerkwon R, Boriboon S. Developing practice guidelines for common disease in community pharmacy. Songkla Med J 2006;24(3):175-81.

McIsaac WJ, Goel V, To T. The validity of a sore throat score in family practice. CMAJ 2000; 163: 811-5.

Malathum K. Principle of antibiotic using in general practice. In: Sumethkul V, Sungkanuparph S, Kiertiburanakul S, editors. Medical problems in clinical practices. Bangkok: Offset Creation; 2010. P. 498-512.

Martwanna W, Boonjarat S. Pattern of antibiotic used after implementing Antibiotic Smart Use Program [internet]. 2012 June 26 [cited 2012 August 20]. Available from :http://www.knhosp.go.th/Data/June2012/14-06-55/.../Abstract_ASU.pdf

Pongpech P. Antibacterial resistance. In: Kasattut N, Puttilerpong C, editors. Pharmacotherapy infectious diseases 2009. Bangkok: Printing Place; 2009. p. 9-29.

Soompradit N. Antibiotics Smart Use II [internet]. 2009 [September 2009; 2012 July 13]. Available from :http://newsser.fda.moph.go.th/rumthai/userfiledownload/asu121dl.pdf

Thanawuth N, Soorapan S, Rojpitbulstit M, Kasiwong S, Pattharachayakul S, editors. Trends in infectious disease pharmacotherapy. Bangkok: Prachachon Company; 2011.

Thamlikitkul V, Apisitwittaya W. Implementation of clinical practice guidelines for upper respiratory infection in Thailand. International Society for Infectious Diseases.19 November 2003;8(1):4751.

Wongbut K, Wongpud S, Srichom W, Pookpan S. The Evaluation of Prevalence and Antimicrobial Susceptibility of Bacteria Isolated from Client with Upper Respiratory Infection Symptom at Mahasarakham Drug Stores [abstract]. IJPS 2012;8(1):261.