การพัฒนาบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ในเรื่องการคำนวณความแรงของเภสัชภัณฑ์ และการเตรียมน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นแตกต่างกัน

บทคัดย่อ

ทักษะและความเข้าใจเกี่ยวกับการคำนวณทางเภสัชกรรมนั้นเป็นพื้นฐานที่มีความสำคัญและเกี่ยวเนื่องกับงานด้านเภสัชกรรมในหลายด้าน เช่น การจัด-จ่ายยา การผลิตยา ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อการรักษาทั้งสิ้น ดังนั้นเพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการคำนวณความแรงของเภสัชภัณฑ์และการเตรียมน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นแตกต่างกันมากยิ่งขึ้น จึงได้ทำการศึกษาเป็นแบบกึ่งทดลอง (Quasi-experimental study) รูปแบบ two groups pretest-posttest design มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในเรื่องความแรงของเภสัชภัณฑ์และการเตรียมน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นแตกต่างกัน สำหรับนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงสาธารณสุขศาสตร์ (เทคนิคเภสัชกรรม) ชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดขอนแก่น จำนวน 32 คน วิธีดำเนินการวิจัย: ทำการสุ่มอย่างง่ายโดยแบ่งนักศึกษาออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 16 คน ได้แก่ กลุ่มควบคุมได้รับเอกสารประกอบการสอน เอกสารประกอบการบรรยายร่วมกับการบรรยายจากอาจารย์ในชั้นเรียนตามปกติ และกลุ่มทดลองได้รับเอกสารประกอบการสอน เอกสารประกอบการบรรยาย ร่วมกับการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น ประเมินความรู้ความเข้าใจด้วยคะแนนก่อนเรียน หลังเรียนทันที และหลังเรียน 2 สัปดาห์ ประเมินคะแนนความคิดเห็นต่อการเรียนจากผู้เรียนทั้งสองกลุ่ม รวมทั้งประเมินความพึงพอใจต่อคุณภาพและข้อเสนอแนะต่อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอนโดยกลุ่มทดลอง ผลการวิจัย: พบว่าคะแนนความรู้ก่อนเรียน หลังเรียนทันทีและหลังเรียน 2 สัปดาห์ระหว่าง 2 กลุ่มไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.75, p = 0.55 และ p = 0.47 ตามลำดับ) นอกจากนี้พบว่าทั้ง 2 กลุ่มมีคะแนนความรู้หลังเรียนสูงกว่าคะแนนความรู้ก่อนเรียนและคะแนนความรู้หลังเรียน 2 สัปดาห์สูงกว่าคะแนนความรู้หลังเรียนทันทีแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) สำหรับความคิดเห็นต่อรูปแบบการเรียนของทั้ง 2 กลุ่มอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด โดยพบว่ากลุ่มควบคุมให้คะแนนความพึงพอใจโดยรวมต่อรูปแบบการสอนสูงกว่ากลุ่มทดลองแต่ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.49) อย่างไรก็ตามกลุ่มทดลองให้คะแนนความน่าสนใจของการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) นอกจากนี้พบว่ากลุ่มทดลองมีความพึงพอใจต่อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในภาพรวมในระดับมากที่สุด 5 หัวข้อ ได้แก่ 1) มีการดำเนินเรื่องและความต่อเนื่องของเนื้อหา 2) ตัวอักษรที่ใช้ในโปรแกรมมีความชัดเจน อ่านง่าย ขนาดเหมาะสม 3) รูปภาพมีความสอดคล้องกับเนื้อหา 4) ความชัดเจนของเสียงและกราฟิก 5) การใช้งานโปรแกรมง่าย ไม่ซับซ้อน สรุปผลการวิจัย: การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสามารถช่วยเพิ่มความรู้ความเข้าใจในเรื่องความแรงของเภสัชภัณฑ์และการเตรียมน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นแตกต่างกันได้เช่นเดียวกับการเรียนด้วยวิธีการบรรยาย ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการปรับรูปแบบการเรียนการสอน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนรวมถึงส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเองได้