แหล่งต้นทางและเส้นทางการกระจายยาไม่เหมาะสมในชุมชนจาก 8 จังหวัด สู่ข้อเสนอเชิงนโยบายในการแก้ไขปัญหาการกระจายยาไม่เหมาะสมเชิงระบบ

Main Article Content

เบญจมาศ บุดดาวงศ์
นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี
ขนิษฐา วัลลีพงษ์
ลัทธิพร บุญมานัส
อรวรรณ กาศสมบูรณ์
จันทร์จรีย์ ดอกบัว
จุมพล ประถมนาม
ชาญชัย บุญเชิด
สุภาวดี เปล่งชัย
ไพลิน สาระมนต์ ธรรมสอน
กาญจนพงษ์ เพ็ญทองดี

บทคัดย่อ

บทนำ: พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 อนุญาตให้ยาที่จำหน่ายได้ทั่วไปเฉพาะยาสามัญประจำบ้านเท่านั้น แต่ปัจจุบันพบการกระจายยานอกเหนือจากยาสามัญประจำบ้านจำนวนมาก ข้อมูลจาก 8 โรงพยาบาล ใน 8 จังหวัด พบ อาการไม่พึงประสงค์จากยาในชุมชนร้อยละ 18 ของการเกิดทั้งหมด จึงนำมาสู่การสำรวจแหล่งต้นทางและเส้นทางการกระจายยาลักษณะยาที่ไม่เหมาะสมในชุมชนตามร้านชำ 613 ร้าน วิธีการวิจัย: วิเคราะห์ผลการประเมินการเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่กระจายผิดกฎหมาย เพื่อให้ได้ชุดข้อมูลสถานการณ์การกระจายยาและผลกระทบของยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพในชุมชน เป็นข้อมูลนำเสนอเชิงนโยบายในการแก้ไขปัญหาภาพรวม ผลการศึกษา: พบว่าประเภทของยาที่พบเป็นยาอันตราย ร้อยละ 30.9 ยาสามัญประจำบ้าน ร้อยละ 21.8 ยาแผนปัจจุบันบรรจุเสร็จ ร้อยละ 20.3 ยาแผนโบราณ ร้อยละ 13.6 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ร้อยละ 7.7 ยาชุด ร้อยละ 4.4 ยาสมุนไพร ร้อยละ 0.9 และยาควบคุมพิเศษ ร้อยละ 0.4 นอกจากนี้ผลการสำรวจพบว่า แหล่งต้นทางการกระจายสู่ชุมชนมาจากหลายแหล่ง ด้งนี้ ร้านขายของส่ง (รวมร้านชำขนาดใหญ่) ร้อยละ 32.5 ร้านขายยา (ขย.1) ร้อยละ 31.5 ร้านขายยา (ขย.1+และ ขย.3) ร้อยละ 14.7 รถเร่ ร้อยละ 11.5 ห้างสรรพสินค้า ร้อยละ 7.7 และอื่น ๆ ร้อยละ 2.6 เส้นทางการกระจายยา มีทั้งลักษณะ ผู้ประกอบการไปซื้อจากแหล่งต้นทางโดยตรง สั่งซื้อทางโทรศัพท์ส่งยาทางรถยนต์ของร้าน ส่งผ่านรถเร่ส่งสินค้าหรือส่ง ทางไปรษณีย์ รถเร่ขายยาตามชุมชน มีรูปแบบการโฆษณาและจำหน่ายยาโดยใช้สื่อการแสดงละครสัตว์ ฉายหนัง และพบมีกรณีส่งยาจำนวนมากพักในบ้าน เพื่อจำหน่ายต่อในพื้นที่ ส่วนหนึ่งผสมยาสเตียรอยด์ สรุปผลการศึกษา: จากผลการสำรวจทำให้มีการเชื่อมข้อมูลไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ทั้ง 8 จังหวัด สำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา แผนงานศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ เครือข่ายคุ้มครอง ผู้บริโภคฯ เพื่อน่าข้อมูลไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบาย ในการแกัไขปัญหาการกระจายยาที่ไม่เหมาะสมในชุมชน จำกัด ช่องทางการกระจายยาให้สามารถคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัย เกิดกลไกการเฝ้าระวังอย่างเป็นระบบ

Article Details

ประเภทบทความ
เภสัชกรรมปฏิบัติ (Pharmaceutical Practice)

เอกสารอ้างอิง

Bureau of drug Control. Drug Act B.E.1967. [online] 2014[cited2014 Feb 7] Available from: http://drug.fda.moph.go.th/zone_service/files/ser001_03.asp

Drug System Monitoring and Development Program (DMD). Medicine Advertisement Management[online] 2012Feb 2 [cited2014 Jan 14] Available from: http://www.thaidrugwatch.org

Drug System Monitoring and Development Program (DMD), Safety for All from unlawful Medicine, Mornitoring and Management.Thaidrugwatch 2013; 5(17): 3-26

Komatra Chuengsatiansup, Luechai Sri-Ngernyuang, Wichit Paonil. Medicine and Community Social and Cultural Dinention. Nonthaburi: Society and health institute,2007

Kornkaew Chanthapasa.Qualitative tools in Quality Pharmacy Service Management. Patient-centered; 18-22 Aug 2008; Khonkan University.

Kritaya Lomas, Kornkaew Chanthapasa. The Situation of Radio Advertisement of Drug and Food claimed as Drug in Phraibueng, Sisaket Province. [online] 2012 Feb 11-12 [cited2014Mar7] Available from: http://pharm.kku.ac.th/isan-journal/journal/volumn8-no1/4annual/007-KKU_

Kudsawadee Maluangnon, Sirintra Korsangruang, Attiwat Chairop, et al.The survey of Ya-Chud In Pathemthani Province.[online] 2014 Jun. [cited2015 Jul 15] Available from: http://journal.hcu.ac.th/pdffile/

Nataporn Chaipichit, Narumol Jarernsiripornkul, Pansu Chumworathayi.Knowledge, Understanding of Drug Allergy and Drug Allergy Card Carrying Behavior of Drug Allergic Patients in SrinagarindHospital. Srinagarind Medical Journal2009; 24(3): 224-230.

Parun rutjanathamrong. Medicine Classification: Drug Act B.E.1967[online] 2014 [cited2014 Jul7] Available from http://rparun.blogspot.com/2014/07/drugact2510part1-3.html

Wassana Naiyapattana. Health Problems-Medicine-Used Problems, and Medicine-Used Behaviors amomg Elderly in the Community of Phramongkutklao Hospital Personel’s Residence. Jurnal of Nursing and Education 2010.3(1): 2-14.