ผลลัพธ์ทางคลินิกและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคหืด คลินิกโรคหืด โรงพยาบาลระดับตติยภูมิ
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทนำ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลลัพธ์ทางคลินิกและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคหืด โดยทีมสหสาขาวิชาชีพ คลินิกโรคหืด วิธีการดำเนินการวิจัย: ศึกษาแบบกึ่งทดลองไปข้างหลัง (Retrospective Quasi-Experiment or Pre-Post Study) ในผู้ป่วยนอกรายใหม่ที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคหืด และเข้ารับการรักษาในคลินิกผู้ป่วยโรคหืด ระหว่าง 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ถึง 31 มกราคม พ.ศ. 2555 มีการติดตามผลการรักษาในคลินิกอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน และได้รับการบริบาลทางเภสัชกรรมจากเภสัชกรในคลินิกอย่างน้อย 2 ครั้ง แล้วดูผลลัพธ์ทางคลินิกได้แก่ สมรรถภาพปอด และระดับการควบคุมโรคหืด ทุก 2 เดือน และวัดคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ณ ครั้งแรกที่เข้าคลินิกและหลังจากรับการรักษาต่อเนื่องมา 6 เดือนโดยใช้แบบวัดคุณภาพชีวิต Thai MiniAQLQ โดยค่า ผลการวิจัย: ผู้ป่วยจำนวน 41 ราย อายุเฉลี่ย 44.00±5.32 ปี เป็นเพศหญิงร้อยละ 65.9 จากการศึกษาพบว่า ผลลัพธ์ทางคลินิกของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในคลินิกโรคหืดดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกล่าวคือ ค่าสมรรถภาพปอด (PEFR) มีค่ามากกว่าค่าเริ่มต้น (304.8 ± 102.9 และ 330.2 ± 114.2 ตามลาดับ, p=0.026) ร้อยละของจำนวนผู้ป่วยที่มีค่าสมรรถภาพปอด (%PEFR) มากกว่าร้อยละ 80 มีจำนวนสูงกว่าค่าเริ่มต้น (ร้อยละ 41.5 และ ร้อยละ 61.0 ตามลาดับ, p=0.003) ภายหลังได้รับการบริบาลจากทีมสหสาขาวิชาชีพ พบว่าระดับการควบคุมโรคหืดของผู้ป่วยแตกต่างกับก่อนเข้าร่วมในคลินิก โดยผู้ป่วยที่มีการควบคุมโรคในระดับ controlled และ partly controlled/uncontrolled ก่อนเข้าคลินิก เท่ากับร้อยละ 34.2 และ 65.8 ตามลาดับ และเมื่อสิ้นสุดการศึกษา มีผู้ป่วยที่มีการควบคุมโรคในระดับ controlled เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 65.9 และ partly controlled หรือ uncontrolled ลดลงเป็นร้อยละ 34.1 (p = 0.008) พบจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในห้องฉุกเฉินลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (ร้อยละ 19.5 และร้อยละ 2.4 ตามลำดับ, p=0.039) ด้านคุณภาพชีวิตโดยรวมของผู้ป่วยหลังเข้ารับการรักษาในคลินิกโรคหืดดีขึ้นโดยมีค่าเฉลี่ยของคะแนนสูงกว่าครั้งแรกอย่างมีนัยสำคัญทางคลินิก (4.1±0.9 และ 5.2±1 ตามลำดับ, p<0.0001) และในทุกมิติทั้งด้านอาการ ด้านการแสดงอารมณ์ ด้านการจำกัดในกิจกรรมและด้านสิ่งเร้าในสภาพแวดล้อม ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเช่นเดียวกัน สรุปผลการวิจัย: การบริบาลผู้ป่วยโรคหืด โดยทีมสหสาขาวิชาชีพ ในคลินิกโรคหืด ส่งผลให้ผลลัพธ์ทางคลินิกและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น
Article Details
กรณีที่ใช้บางส่วนจากผลงานของผู้อื่น ผู้นิพนธ์ต้อง ยืนยันว่าได้รับการอนุญาต (permission) ให้ใช้ผลงานบางส่วนจากผู้นิพนธ์ต้นฉบับ (Original author) เรียบร้อยแล้ว และต้องแนบเอกสารหลักฐาน ว่าได้รับการอนุญาต (permission) ประกอบมาด้วย
References
Duangdee A., Outcome of Easy asthma clinic implementation at Ban PhaiHospital, Khon Kaen. Journal ofHealth System. 2007; 1styear, No. 2: 45-50.
Ford ES, Mannino DM, Homa DM, et al. Self-reported asthma and health-related quality of life. Chest 2003; 123: 119-27.
JanworachaikulC. Outcomes of Easy Asthma Clinic in Yangtalad Hospital. Srinagarind Med J. 2007; 22(4):449-58.
Juniper EF. Quality of life considerations in the treatment of asthma. Pharmacoecon 1995; 8(2):123-38
Juniper EF. Guyatt GH. Astma and allergy. In: Spilker (ed). Quality of life and Pharmacoeconomics in Clinical Trials. 2nded. Philadelphia: Lippincott-Raven Publisher, 1996: 977-82.
Juniper EF. Development and validation of the Mini Asthma Quality of Life Questionaire. Eur Respir J. 1999.14: 32 –38.
Klaikaew L. Outcomes Measurement on Drug Counseling in Asthmatic Patients. Thai Journal of Hospital Pharmacy.2009; 19(3):228-36.
KuwalairatP.,Mayases P., Navawatcharin N.,The evaluation ofpharmaceutical care forpatients withasthma bypharmacistsinmultidisciplinary teams. Pharmacy Department, Paknum-ChumpornHospital. 2008: 1-12.
Lertsinudom S. Validity and Reliability of the Thai Mini Asthma Quality of Life Questionaire. J Med Assoc Thai. 2010. 93 (3): 373 –377
Nuchprayoon C.ArticleWorldAsthmaDay. KnowledgeSocietyasthmatic patientsfromthe region; 2549: 1-2.
Sangpoom P., Sathapornnanoon N., Poonsap N.,Clinical outcomesandqualityoflife of pharmaceutical carebefore to see physician in theasthma clinicat Pranangklao hospital.Thai Pharm Health Sci J.2010; Vol. 5(1): 23-30.
Wisnivesky JP, Leventhal H, Kalm EA. Predictors of asthma-related health care utilization and quality of life among inner-city patients with asthma. J Allergy Clin Immunol2005; 116: 636-42.