การใช้กลูต้าไธโอนเพื่อผิวขาวของนักศึกษามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ตามทฤษฎีพฤติกรรมตามแผน
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทนำ: การบริโภคกลูต้าไธโอนเพื่อผิวขาวในกลุ่มนักศึกษาระดับอุดมศึกษาเพิ่มมากขึ้นตามค่านิยมความงามและการมีผิวขาวของคนในสังคมไทย การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความรู้ความเข้าใจเรื่องกลูต้าไธโอนและประยุกต์ใช้ทฤษฎีพฤติกรรมตามแผนในการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการใช้ผลิตภัณฑ์กลูต้าไธโอนเพื่อผิวขาวของนักศึกษามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี วิธีดำเนินการวิจัย: การวิจัยเชิงพรรณนาภาคตัดขวาง โดยเก็บข้อมูลในชั้นเรียน 4 รายวิชา ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 ด้วยแบบสอบถามที่พัฒนาขึ้นตามทฤษฎีพฤติกรรมตามแผน และใช้สถิติเชิงพรรณนา ในการอธิบายคุณลักษณะของกลุ่มตัวอย่าง และองค์ประกอบตามทฤษฎี และใช้สมการการถดถอยเชิงพหุในการหาความสัมพันธ์ระหว่างความตั้งใจในการใช้กลูต้าไธโอนเพื่อผิวขาวกับทัศนคติ การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงความสามารถในการควบคุมพฤติกรรม ความรู้ และ เพศ กำหนดระดับนัยสำคัญที่ α เท่ากับ 0.05 ผลการวิจัย: กลุ่มตัวอย่าง 368 คน เข้าร่วมการศึกษาโดยสมัครใจ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (82.9%) ประมาณหนึ่งในสามของกลุ่มตัวอย่าง เคยใช้ผลิตภัณฑ์กลูต้าไธโอน (34.8%) และมีความรู้เกี่ยวกับกลูต้าไธโอนในระดับปานกลาง (5.0 ± 2.3, คะแนนเต็ม 10) โดยส่วนใหญ่ได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกลูต้าไธโอนผ่านทางอินเตอร์เน็ต และโทรทัศน์ (91.3% และ 67.2% ตามลำดับ) การประยุกต์ใช้ทฤษฎีพฤติกรรมตามแผน พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีความตั้งใจในการใช้กลูต้าไธโอนเพื่อผิวขาวปานกลาง มีทัศนคติต่อการใช้ปานกลาง มีการคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงค่า และมีการรับรู้ความสามารถในการควบคุมพฤติกรรมปานกลาง โดยองค์ประกอบทั้งสามเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลร่วมกันในการทานายความตั้งใจในการใช้กลูต้าไธโอนเพื่อผิวขาวอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (Model R2= 0.311) และเมื่อพิจารณาเพศร่วมด้วยพบว่า เพศช่วยเพิ่มอำนาจในการทำนายความตั้งใจในการใช้กลูต้าไธโอนเพื่อผิวขาวได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (Model R2= 0.324) โดยเพศหญิงมีความตั้งใจในการใช้สูงกว่าเพศชายโดยในภาพรวมทัศนคติเป็นองค์ประกอบที่มีอานาจในการทำนายมากที่สุด สรุปผลการวิจัย: ผลการศึกษาชี้ให้เห็นแนวทางสำคัญในการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลผิวพรรณของนักศึกษาในสองประเด็น คือ การพัฒนาทักษะการรู้เท่าทันสื่อของนักศึกษาและการใช้มาตรการควบคุมสื่อโฆษณาที่เกินจริง
Article Details
กรณีที่ใช้บางส่วนจากผลงานของผู้อื่น ผู้นิพนธ์ต้อง ยืนยันว่าได้รับการอนุญาต (permission) ให้ใช้ผลงานบางส่วนจากผู้นิพนธ์ต้นฉบับ (Original author) เรียบร้อยแล้ว และต้องแนบเอกสารหลักฐาน ว่าได้รับการอนุญาต (permission) ประกอบมาด้วย
เอกสารอ้างอิง
Ajzen I. Constructing a TPB Questionnaire: Conceptual and methodological considerations. [online]. 2006 [cited 2015 Dec 31]. Available from: 2006 http://www.uni-bielefeld.de/ikg/zickajzen%20construction%20a%20tpb%20questionnaire.pdf
BruanasakJ. The whitening cream influences self andidentity of female workers [thesis master ofarts]. Bangkok: Mahidol University; 2006.
Kongwong R and ViboonWattananamkul, A study of “harmful cosmetics” usage behavior among female teenagers in UbonRatchathani Province. IJPS,2011;7(1): 76-87
Lindeman, H.L., et al. Introduction to Bivariate and Multivariate analysis. Glenview, Illinois: Scott, Foresman and Company. 1980
Raul Charlin, Carlos B. Barcaul, BermardKawaKac, et . Hydroquinone-induced exogenous ochroniosis:a report of four cases and usefulness of dermoscoyp. IJD 2008; 15(1): 85-91.
Thai FDA. Thai FDA regulation for active ingredient in amino acid nutritional supplement.[online].2006 [cited 2015Dec 31]. Available from: http://www.jsppharma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539323431
Westerhof W. and Kooyers TJ.Hydroquinone and its analoques in dermatoltgy-a potential health risk.JCD 2005; 4: 55-59.