การศึกษาอุบัติการณ์การเกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำในผู้ป่วยมะเร็งชนิดก้อนที่ได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์

บทคัดย่อ

โรคมะเร็งเป็นโรคที่มีอุบัติการณ์การเกิดและอัตราการเสียชีวิตที่สูง การรักษาโรคมะเร็งด้วยยาเคมีบำบัดสามารถเพิ่มอัตราการรอดชีวิตแต่ก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการรักษา การเกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำเป็นอาการไม่พึงประสงค์ที่สำคัญและพบได้หลังได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอุบัติการณ์การเกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำในผู้ป่วยโรคมะเร็งชนิดก้อนระหว่างและหลังได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด วิธีดำเนินงานวิจัย: การศึกษานี้เป็นการวิจัยแบบติดตามย้อนหลังในผู้ป่วยโรคมะเร็งชนิดก้อนที่ได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 30 มิถุนายน 2564 วิเคราะห์อุบัติการณ์การเกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำด้วยสถิติเชิงพรรณนา เปรียบเทียบปริมาณเกล็ดเลือดก่อนและหลังได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด เปรียบเทียบระยะเวลาการนอนโรงพยาบาลระหว่างกลุ่มผู้ป่วยที่เกิดและไม่เกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำ วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนรอบของการให้ยาเคมีบำบัดกับปริมาณเกล็ดเลือดก่อนการรักษารอบถัดไป และความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงปริมาณเกล็ดเลือดกับผลต่อการเปลี่ยนแปลงของระบบ วิเคราะห์ผลด้วย SPSS statistics version 29 ผลการศึกษา: ผู้ป่วยเข้าร่วมการศึกษาทั้งหมด 415 ราย จำนวนครั้งของการรับยาเคมีบำบัด 3,429 ครั้ง อุบัติการณ์การเกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำร้อยละ 9.3 และผู้ป่วยร้อยละ 89.9 มีความรุนแรงของภาวะเกล็ดเลือดต่ำระดับ 1 พบการลดลงของปริมาณเกล็ดเลือดหลังได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดจาก 320,000 เซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร เป็น 263,000 เซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร อย่างนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.05) นอกจากนี้พบความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนรอบของการให้ยาเคมีบำบัดที่เพิ่มขึ้นกับปริมาณเกล็ดเลือดที่ลดลง และปริมาณเกล็ดเลือดที่ลดลงมีความสัมพันธ์กับการลดลงของเม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดขาวชนิดนิวโทรฟิล สรุปอภิปราย: ผลการศึกษาครั้งนี้พบอุบัติการณ์การเกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำร้อยละ 9.3 และพบความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณเกล็ดเลือดที่ลดลงกับจำนวนรอบที่เพิ่มขึ้นของการได้รับยาเคมีบำบัดและการลดลงของปริมาณเม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดขาวชนิดนิวโทรฟิล